“บีโอไอ” เผย 7 เดือนแรกยื่นลงทุนแตะ 1.05 แสนล้านบาท เหตุกิจการเป้าหมายยื่นลงทุนเป็นที่น่าพอใจหากสิ้นปีไม่ถึง 3.5 แสนล้านบาทก็ไม่หวั่น พร้อมเตรียมเข็นการแก้ไข พ.ร.บ.ส่งเสริมฯ ที่จะให้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมที่จะเน้นเป็นพิเศษ คาดเสร็จภายในปี 2559
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนผ่านบีโอไอช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.) มีทั้งสิ้น 506 โครงการ คิดเป็นเม็ดเงินการลงทุนรวม 1.05 แสนล้านบาท ซึ่งในจำนวนดังกล่าวพบว่าเป็นกิจการลงทุนที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่บีโอไอส่งเสริมฯ คิดเป็น 64% ของจำนวนโครงการ และ 60% ของเงินลงทุน
“ปีนี้การยื่นขอรับส่งเสริมฯ จะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ 3.5 แสนล้านบาท แต่ถ้าจะไม่ถึงเป้าหมายก็ไม่เป็นไร เพราะเป้าหมายของเราคือดูที่กิจการเป้าหมายที่เข้ามาขอส่งเสริมฯ มากกว่า” นางหิรัญญากล่าว
ทั้งนี้ บีโอไอเตรียมที่จะเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนที่จะให้มีเครื่องมือการส่งเสริมฯ ที่มากขึ้น โดยปรับในเรื่องของสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกฎหมายปัจจุบันได้สูงสุด 8 ปี เป็น 13 ปีสำหรับอุตสาหกรรมที่รัฐบาลจะส่งเสริมให้เกิดเป็นกรณีพิเศษโดยเฉพาะด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งกฎหมายดังกล่าวเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเพื่อเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าจะสามารถนำมาปฏิบัติได้ภายในปี 2559 ส่วนอุตสาหกรรมใดนั้นทางบอร์ดบีโอไอจะต้องมากำหนดภายหลัง
นางหิรัญญากล่าวว่า บีโอไอได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) การส่งเสริมและสนับสนุนภาคเอกชนด้านการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม กับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมีนายพิเชษฐ ดุรงคเวช รมว.กระทรวงวิทย์ฯ เป็นสักขีพยาน ซึ่งพบว่าแนวโน้มกลุ่มกิจการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดย 7 เดือนที่ผ่านมาบีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มนี้รวม 72 โครงการ เงินลงทุน 2.16 หมื่นล้านบาท
“กระทรวงวิทย์ได้กำหนดเป้าหมายส่งเสริมกิจการเหล่านี้ 1% ของจีดีพีในสัดส่วนเอกชนต่อรัฐ 70:30 ซึ่งมีการสนับสนุนในหลายมาตรการ อาทิ ยกเว้นภาษีที่เกิดจากค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม จากเดิม 200% เพิ่มเป็น 300%” นางหิรัญญากล่าว
