ASTV ผู้จัดการรายวัน - สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ เร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย เปลี่ยนกล้องวงจรปิด 4K รวม 74 ตัว เผยสถานการณ์กลับคืนปกติ โดยเฉพาะโรงแรมมีต่างชาติแห่เข้าพัก 90% ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยว 4 แสนคนต่อวัน เว้นสถานการณ์ค้าปลีกที่ทรุดตามภาวะเศรษฐกิจโลก เดินหน้าจัดกิจกรรมต่อเนื่องถึงปลายปี ล่าสุด “ทีเส็บ” จับมือ “อัมสเตอร์ดัม ไลท์ เฟสติวัล” จัดไลต์เฟสติวัลสร้างบรรยากาศท่องเที่ยวราชประสงค์
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ หรือ RSTA เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิด ณ บริเวณศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา จนภาครัฐสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ส่วนหนึ่งและเริ่มคลี่คลายสถานการณ์ได้มากแล้วทำให้ปัจจุบันสถานการณ์ด้านการค้าและการท่องเที่ยวบริเวณย่านราชประสงค์เริ่มกลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากช่วงสัปดาห์แรกที่เกิดเหตุส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาลดลง 30% นักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมลดลง 30% และภาวะการค้าปลีกที่ลดลง 40%
จากข้อมูลล่าสุดพบว่า โรงแรมต่างๆ ย่านราชประสงค์มีนักท่องเที่ยวยืนยันการเข้าพักตามปกติแล้วประมาณ 90% ยกเว้นสถานการณ์ค้าปลีกที่ยังคงลดลงซึ่งไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์ระเบิด หรือความเชื่อมั่นแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะกำลังซื้อภายในประเทศและภาวะเศรษฐกิจของโลกที่ซบเซาลง โดยเฉพาะภาวะตลาดหุ้นของประเทศจีนที่ตกต่ำจนส่งผลให้ภาวะค้าปลีกของหลายๆ ประเทศ ทั้งไทย สิงคโปร์ และฮ่องกงต่างได้รับผลกระทบจนมีตัวเลขที่ตกลงไปมาก
อย่างไรก็ตาม เรื่องความปลอดภัยและเชื่อมั่นยังถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สมาคมฯ กำลังประสานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร (กทม.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อหารือถึงมาตรการด้านความปลอดภัย รวมถึงระบบการป้องกันและตรวจสอบ สำหรับประเด็นที่จะมีการหารือนั้นจะรวมถึงมาตรการทุกด้าน ทั้งการวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย การจัดระเบียบทางเท้า แผงลอย และจักรยานยนต์รับจ้าง รวมถึงการจัดสุนัขตำรวจดมกลิ่นวัตถุต้องสงสัย รวมถึงการปรับระบบกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น โดยคาดว่าจะมีการหารืออย่างเป็นทางการภายในเดือน ก.ย.ศกนี้
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่เข้าใจและยอมรับได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรปที่มักพบเหตุการณ์ลักษณะนี้เป็นประจำทุก 1-3 ปี แต่เพื่อเป็นการเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านระบบการป้องกันความปลอดภัย ขณะนี้สมาคมฯ จึงเปลี่ยนการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือ CCTV เป็นกล้อง 4K ของพานาโซนิคที่ให้ความคมชัดสูง รวม 74 ตัวในย่านราชประสงค์ โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างก็พร้อมเปลี่ยนแปลงกล้องวงจรปิดให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล รวมถึงศาลท้าวมหาพรหม และบริเวณอื่นๆ”
นายชายกล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมฯ และผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ยังเตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นภาวะการค้าและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยโครงการที่จะเริ่มดำเนินงานในเร็วๆ นี้คือ การจัด Street Art เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมาร่วมวาดรูปบริเวณสกายวอล์กภายใต้แนวคิด Stonger Together จากนั้นยังจะมีการจัดเทศกาลอาหาร รวมถึงการจัดงานและพิธีวันเกิดท้าวมหาพรม ในวันที่ 9 พ.ย.ศกนี้ หลังจากนั้นยังจะมีการจัดกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ เทศกาลเบียร์เฟสติวัล เทศกาลคริสต์มาส และกิจกรรมเคานต์ดาวน์ในช่วงปลายปี
ล่าสุด สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” ยังร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ “อัมสเตอร์ดัม ไลท์ เฟสติวัล” (Amsterdam Light Festival) เพื่อจัดงานไลต์เฟสติวัล ณ บริเวณย่านราชประสงค์ในช่วงเดือน พ.ย.ศกนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้จัดงานมหกรรมระดับโลกในการตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการจัดงานอีเวนต์และเฟสติวัลระดับนานาชาติ
“ความร่วมมือในการจัดงานไลต์เฟสติวัลครั้งนี้นอกจากจะเป็นการสร้างสีสันและบรรยากาศการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ ให้มีความคึกคักแล้ว ยังถือเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวและนักเดินทางกลุ่มไมซ์วางแผนเดินทางสู่ประเทศไทยในช่วงปลายปี โดยสมาคมฯ ยังจะร่วมมือกับผู้ประกอบการค้าปลีกจัดโปรโมชันส่งเสริมการขายลดราคาสินค้าทั้งใหม่และโละสต๊อกเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายให้เพิ่มสูงขึ้น โดยมั่นใจว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวและประชาชนในย่านราชประสงค์มีจำนวนกว่า 4 แสนคนต่อวันและเพิ่มเป็นหนึ่งเท่าตัวในช่วงกิจกรรมเคานต์ดาวน์” นายชายกล่าวในที่สุด