กรมพัฒน์จัดงาน e-Commerce Day 2015 วันที่ 9-10 ก.ย.นี้ หวังดึงผู้ประกอบการที่ค้าขายออนไลน์กว่า 4 แสนรายเข้าสู่ระบบให้ได้เพิ่มมากขึ้น เชิญกูรูช่วยเสริมความรู้ พร้อมแนะนำช่องทางเข้าสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เล็งจับมือผู้ประกอบการขายสินค้าออนไลน์ควบคู่ไปด้วย คาดเงินสะพัด 50 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวเครื่องหมาย DBD Verified สร้างความเชื่อมั่นให้ธุรกิจ
นายวิชัย โภชนกิจ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ จะจัดงาน e-Commerce Day 2015 ระหว่างวันที่ 9-10 ก.ย. 2558 ที่กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้หัวข้อ “สร้างโอกาสธุรกิจด้วยดิจิทัลคอมเมิร์ซ (Empowering your business with digital commerce)” เพื่อต่อยอดและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างความน่าเชื่อถือทางการตลาด และปรับตัวเข้าสู่ช่องทางการตลาดในรูปแบบอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขยายธุรกิจไทยสู่ตลาดสากล
“ปัจจุบันมีผู้ประกอบการทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ประมาณ 4 แสนราย ที่ทำธุรกิจค้าขายผ่านอีคอมเมิร์ซ แต่มายื่นจดทะเบียนถูกต้องเพียงแค่ 12,573 ราย และ 142,68 เว็บไซต์ ถือว่ายังมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการทั้งระบบ ซึ่งกรมฯ จะผลักดันให้มีการจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นการยืนยันตัวตน และสร้างความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ”
ทั้งนี้ ในการจัดงานกรมฯ จะจัดให้มีเวิร์กชอปให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจจะเข้าสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยจะเชิญผู้ที่ประสบความสำเร็จมาให้ความรู้ รวมไปถึงการให้คำแนะนำในการจัดทำเว็บไซต์ จดโดเมนเนม การจัดส่งสินค้า การชำระเงิน การให้สินเชื่อแก่ธุรกิจ และการจดทะเบียนพาณิชย์
นายวิชัยกล่าวว่า กรมฯ ยังได้ร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซจัดจำหน่ายสินค้าลดราคาเป็นพิเศษในช่วงการจัดงาน โดยจะลดราคาสินค้า 20-50% เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน คาดว่าการจัดงานจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 40-50 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะมีการเปิดตัวเครื่องหมาย DBD Verified รูปแบบใหม่ที่แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ Silver, Gold และ Platinum โดยเครื่องหมายนี้จะเป็นสัญลักษณ์รับรองความน่าเชื่อถือของธุรกิจออนไลน์ที่ออกให้แก่เว็บไซต์ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพตามที่กรมฯ กำหนด เพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าหรือบริการทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายทะลุ 1 ล้านล้านบาท มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 30% เพราะผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญต่อการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยสินค้าที่มีโอกาสในการซื้อขาย เช่น แฟชั่น เครื่องสำอาง เสื้อผ้า สินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี เป็นต้น ทำให้โอกาสที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะขยายตัวมีเพิ่มมากขึ้น