“พาณิชย์” คัดสุดยอดแบรนด์ไทยกว่า 400 แบรนด์นำไปจัดแสดงโชว์ในงาน Top Thai Brands ในส่วนภูมิภาคเป็นครั้งแรกที่เชียงใหม่ พร้อมดึงผู้ซื้อจากเพื่อนบ้านและคนในพื้นที่เข้าร่วมงาน คาดมีไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นราย เงินสะพัดกว่า 200 ล้านบาท มั่นใจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาค และผลักดันให้ผู้ประกอบการภูมิภาคได้เรียนรู้เพื่อโกอินเตอร์ในอนาคต
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีก 16 หน่วยงานทำการคัดเลือกสินค้าที่เป็นสุดยอดแบรนด์ไทย (Top Thai Brands) ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับคุณภาพส่งออกและชั้นนำของประเทศกว่า 400 แบรนด์ ไปจัดแสดงในระดับภูมิภาคเป็นครั้งแรก ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 26-30 ส.ค. 2558 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา
ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการให้มีการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในส่วนภูมิภาค เพื่อแสดงศักยภาพของสินค้าไทยให้กับประชาชน ผู้ประกอบการ และผู้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านได้รับรู้ และสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่สินค้าไทยได้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานทั้งในประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้านรวมไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นราย มีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท
“ไทยมีศักยภาพในการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ ได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากทั่วโลกที่เดินทางมาชมงานแสดงสินค้าในไทย อย่างงาน THAIFEX ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก ท่านนายกฯ เลยอยากให้มีการจัดงานในลักษณะนี้ในส่วนภูมิภาค จึงเป็นที่มาของการคัดสินค้าสุดยอดไทยแบรนด์ของไทยไปจัดแสดงในส่วนภูมิภาค เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อขาย และกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาค”
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ในการจัดงาน นอกเหนือจากผู้ประกอบการสุดยอดแบรนด์ไทยจำนวน 400 รายแล้ว ยังได้มีการนำสินค้าจากผู้ประกอบการ SMEs สินค้า OTOP มาจัดแสดงด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้และพัฒนาสินค้าของตนเองเข้าสู่ตลาดโลก โดยรวมแล้วจะมีสินค้าเข้าร่วมแสดงและจำหน่ายทั้งสิ้น 445 ราย แบ่งเป็น 9 กลุ่ม คือ อาหารและเครื่องดื่ม แฟชั่นไลฟ์สไตล์และเครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับ สุขภาพและความงาม หัตถกรรมร่วมสมัย เกษตรและเกษตรแปรรูป สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ รถยนต์และเครื่องจักร และธุรกิจบริการ
สำหรับสินค้าสุดยอดแบรนด์ไทยที่จะนำไปจัดแสดง เช่น S&P, SCG, ThaiBev, Singha, SunSweet, แม่ประนอม, มิตรผล, FBT, Malee, UFC, Betagro, SeaValue, Café Amaazon, CP Freshmart, Bonny, SmartBrain, PD House, JP Pool, นายหัวโรตีชาชัก, ข้าวตราฉัตร, ข้าวตราเกษตร, ข้าวมาบุญครอง, ข้าวหงส์ทอง, ข้าวตราไก่แจ้, ข้าวแสนดี, ศิลาดลเชียงใหม่, ผ้าไหมยกดอกลำพูน, MTI cosmetic, Arrow, กุลสตรี, ทิปโก้, กรีนสปอต, ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์, ลักกี้เฟรม และดอกบัวคู่ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายสำคัญ เช่น กลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) บริษัท สหพัฒนพิบูลย์ จำกัด (มหาชน) นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมาจำหน่าย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคด้วย
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า กระทรวงฯ ยังได้เชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งจีนตอนใต้ พม่า และ สปป.ลาว รวมทั้งอาเซียนอื่นๆ เพื่อเดินทางมาร่วมงานและเจรจาการค้า โดยล่าสุดได้รับการตอบรับจากผู้นำเข้าคุนหมิง 15 ราย ที่ให้ความสนใจเข้ามาเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มสินค้าหัตถกรรม ของตกแต่งบ้าน อาหาร สปา อัญมณี และยาง ขณะที่พม่าแจ้งว่าจะมีผู้นำเข้ามาร่วมงานประมาณ 20 ราย เพื่อมาเลือกซื้อสินค้าและเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการของไทย
ส่วนไฮไลต์สำคัญอื่นๆ กระทรวงฯ จะจัดเวทีให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาค เพื่อให้นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจ พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและมาตรฐานเพิ่มมากขึ้น เช่น การสัมมนารวยด้วยแบรนด์, มาตรฐานอาหารปลอดภัย, แนวโน้มสินค้าหัตถกรรมในปี 2559, แนวโน้มการค้าโลก, แนวโน้มการออกแบบอัญมณี, การพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น
ที่สำคัญ จะมีการนำเสนอนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในเรื่องข้าวและผ้าไหม เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ในการส่งเสริมการผลิตข้าวและผ้าไหมไทย ที่เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้แก่ประชาชน เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 83 พรรษา