“จักรมณฑ์” ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมเขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.หนองคาย พบมีศักยภาพสูงจากเส้นทางเชื่อมการค้าไปยังลาว และจีน มองอนาคต10 ปีก้าวสู่การเป็นเมืองท่าการขนส่งด้วยระบบราง และรถยนต์
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการนำคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมศึกษาดูงานและติดตามการดำเนินงานด้านเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดหนองคาย ว่าจากการลงพื้นที่ตรวจดูความพร้อมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ผ่านมา 5 แห่ง พบว่า จ.หนองคายเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงสุดด้วยความพร้อมด้านการค้าชายแดนอยู่แล้ว ประกอบกับจะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังประเทศจีนที่อนาคตอีก 10 ปี สามารถเป็นเมืองท่าทางการขนส่งด้วยรถไฟและรถยนต์ที่สำคัญ
“จีนเองมีแผนพัฒนาระบบรถไฟเชื่อมมาลาว และมาไทยที่จะผ่านมาทางเส้นทางนี้แล้วลงไปยังนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และอนาคตยังมองเชื่อมไปถึงภาคใต้ไทยเข้าสู่สิงคโปร์ เราเองก็มีแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูงที่จะขนส่งคน จึงมองว่าเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพมากสุดในการพัฒนาเป็นระบบลอจิสติกส์ และศูนย์กระจายสินค้าซึ่งอนาคตจะมีการขนส่งสินค้าอย่างมหาศาล” รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวคงไม่จำเป็นต้องพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่รองรับเพราะศักยภาพพื้นที่ติดแม่น้ำโขงสามารถพัฒนาสินค้าเกษตรที่มีอยู่แล้วด้วยการแปรรูปโดยเฉพาะยางพารา รวมถึงพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ. กล่าวว่า ได้ภลงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่ตำบลโนนสว่าง จังหวัดหนองคายโดยผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจแห่งนี้คือ บริษัท นาคาคลีนพาวเวอร์ ซึ่งตกลงจะดำเนินการในรูปแบบของนิคมอุตสาหกรรม มีอุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ ธุรกิจลอจิสติกส์ และอุตสาหกรรมแปรรูป ประกอบกับพื้นที่ติดกับ สปป.ลาวจึงทำให้มีศักยภาพในการเชื่อมต่อการค้าไปยังจีนตอนใต้
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 ส.ค. กนอ.ได้ร่วมมือกับสำนักงานเลขานุการเขตเศรษฐกิจพิเศษของ สปป.ลาวจัดสัมมนาการลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-ลาวซึ่งมีการให้ความรู้และแลกเปลี่ยนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจรวมถึงศักยภาพเขตเศรษฐกิจหนองคายที่มีนิคมอุตสาหกรรมรองรับรวมถึงในงาานยังมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ เบื้องต้นมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมการจับคู่ทางธุรกิจแล้วประมาณ 30 คู่