“คมนาคม” เลิกแน่ มาตรการฟรีเหมาเข่งทุกคน ปิดฉากรถเมล์ฟรี-รถไฟฟรี ปรับเกณฑ์ลดหย่อน 50% ให้เฉพาะผู้มีรายได้น้อยและ ยันตรงกลุ่มเป้าหมายและลดการอุดหนุนงบประมาณจากภาครัฐปีละ 2,400 ล้านบาท ขณะที่เพิ่มจำนวนรถเมล์เป็น 1,519 คันในทุกเส้นทาง จากเดิม 800 คัน 73 เส้นทาง ส่วนรถไฟเพิ่มเป็น 172 ขบวนจาก164 ขบวน ชง ครม.ต่ออายุมาตรการเดิมอีก 3 เดือนเพื่อประชาสัมพันธ์และขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้ เริ่มใช้ 1 พ.ย. 58
นายพงษ์ไชย เกษมทวีศักดิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทาง (รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี) ว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2558 เห็นชอบการขยายระยะเวลาดำเนินการมาตรการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่ 1 ก.พ.-31 ก.ค. 2558 โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเร่งการพิจารณาแนวทางการดำเนินมาตรการใหม่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายจริงๆ และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลต้องสนับสนุนโครงการนั้น ขณะนี้ได้ข้อสรุปมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนผู้มีรายได้น้อยแล้ว โดยมาตรการใหม่จะปรับจากเดิมที่ให้ฟรีทุกกลุ่มสามารถใช้บริการรถเมล์จำนวน 800 คันใน 73 เส้นทาง และรถไฟฟรี ชั้น 3 จำนวน 164 ขบวน เป็นรถเมล์ 1,519 คันในทุกเส้นทางของ ขสมก. รถไฟชั้น 3 จำนวน 172 ขบวน
โดยแบ่งเป็นกลุ่มผู้ได้รับบริการฟรี 2 ส่วน คือ ส่วนกลุ่มผู้ที่ได้รับการยกเว้นเดิมตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก คือเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ เช่น ตำรวจ, ผู้ถือบัตรอนุญาตในส่วนของผู้ประกอบการเอง, พระภิกษุ สามเณร
ส่วนของผู้ได้รับลดหย่อนครึ่งราคา หรือลด 50% คือ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทหารผ่านศึก, กลุ่มนักเรียนตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 3 ลงไปลดหย่อนโดยจ่าย 1 ใน 3 และนักเรียนตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป รวมถึงนักศึกษา ลดหย่อนโดยจ่าย 2 ใน 3 ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องรับภาระการลดหย่อนนี้เพราะเป็นข้อกำหนดในทางกฎหมายอยู่แล้ว โดย ขสมก.จะรับภาระตามเดิม
โดยภาครัฐจะช่วยรับภาระจะเหลือในส่วนของผู้มีรายได้น้อยกว่า 3,632 บาทต่อเดือน เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี หรือตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาลงไป ซึ่งจะได้รับลดหย่อน 50% ซึ่งมาตรการที่ปรับใหม่นี้พบว่าลดภาระการอุดหนุนงบประมาณจากภาครัฐลงจากมาตรการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ที่ให้ฟรีทุกกลุ่ม สามารถประหยัดงบได้เพียง 64% หรือ 2,400 ล้านบาทต่อปี (200 ล้านบาทต่อเดือน) โดยคำนวณจากมาตรการฟรีเดิมที่รัฐต้องอุดหนุน 309 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 3,700 ล้านบาทต่อปี โดยจะเหลือการอุดหนุนที่ 1,308 ล้านบาทต่อปี หรือ 109 ล้านบาทต่อเดือน
นายพงษ์ไชยกล่าวว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้อนุมัติแนวทางดังกล่าวแล้ว และเนื่องจากมาตรการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรีจะหมดอายุในวันที่ 31 ก.ค. 2558 ในขณะที่การดำเนินงานตามมาตรการใหม่จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลกับประชาชน มีการลงทะเบียนบัตรแสดงตนผู้มีรายได้น้อย พร้อมรายละเอียดอื่นๆ จึงจำเป็นต้องขอ ครม.ขยายอายุมาตรการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรีเดิมออกไปอีก 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-31 ต.ค. 2558 โดยมั่นใจว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยได้ครบถ้วน และเริ่มใช้มาตรการใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2558 เป็นต้นไป