ตลาดกล้องแอ็กชันคาเมราเฟื่องฟู 10 กว่าแบรนด์ลุยเข้าทำตลาดในไทย “เมนทาแกรม” ชี้เป็นเรื่องที่ดี เร่งตลาดรวมโตเร็ว พร้อมดัน “โกโปร” รุกตลาดหนัก หวังปีนี้ขายได้ 40,000 ตัว งัดหลากกลยุทธ์ลุย
นายณัฐพล ปัทมพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมนทาแกรม จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายกล้องแอ็กชันคาเมราแบรนด์โกโปร (GoPro) จากอเมริกา เปิดเผยว่า ตลาดกล้องแอ็กชันคาเมราในไทยเริ่มมีการเติบโตมากขึ้น และมีผู้เล่นหลายแบรนด์ ทั้งจากยุโรป เกาหลี และญี่ปุ่น รวมเกือบ 10 กว่าแบรนด์ แต่ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับโกโปรประมาณ 4 แบรนด์ ซึ่งถือเป็นสิ่งดีที่ทำให้ตลาดรวมเติบโตขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีตัวเลขตลาดรวมและจำนวนที่ชัดเจน
บริษัทฯ โดยแบรนด์โกโปรนี้เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 90% เพราะทำตลาดมานานเป็นรายแรกในไทย โดยช่วง 8 ปีที่ผ่านมาที่ทำตลาดมียอดขายในไทยมากกว่า 50,000 ยูนิตแล้ว ขณะที่ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายกล้องโกโปรไว้ที่ 40,000 ยูนิต มากกว่าปีที่แล้วที่มีประมาณ 20,000 ยูนิตหรือเท่าตัว และมีรายได้รวมบริษัทฯ ปีนี้ 800 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 500 ล้านบาท แต่เมื่อมีหลายแบรนด์เข้ามาก็ยอมรับว่าส่วนแบ่งอาจจะลดลงไปบ้างเหลือประมาณ 60-70% จากฐานตลาดรวมที่เติบโตขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนตลาดเชิงรุกด้วยงบตลาดรวม 20 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วที่ใช้ 10 ล้านบาท มีดีลเลอร์มากกว่า 250 ราย จะรุกตลาดทั้งการเป็นสปอนเซอร์ชิปการแข่งขันต่างๆ การทำโรดโชว์ การจัดอีเวนต์ รวมทั้งการขยายกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัวและการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้กล้องโกโปรเป็นสินค้าที่เป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น จากเดิมก่อนหน้านี้เน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรักกีฬาและคนที่ชอบใช้ชีวิตกลางแจ้ง นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์เสริมอีกที่คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ 25% ส่วน 75% เป็นรายได้จากกล้องโกโปร
อีกทั้งจะมีการร่วมมือกับทางเสื้อผ้าเพื่อจัดกิจกรรมอื่นๆ เช่น เจรจาอยู่กับแบรนด์ นอร์ธเฟซ รวมทั้งการจัดอีเวนต์เพื่อให้สอดคล้องกับที่บริษัทแม่ของโกโปรเป็นสปอนเซอร์ชิปหลายรายการ เช่น การแข่งขันจักรยานตูร์เดอฟรองซ์ หรือสปอนเซอร์การแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ ที่เซ็นสัญญานาน 5 ปี และการทำราคาสินค้าให้ต่ำลงมาจากเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เจรจากับบริษัทแม่เพื่อทำราคาให้ใกล้เคียงกัน จากเดิมที่ ราคาในไทยจะสูงกว่าที่อเมริกาประมาณ 3,000 กว่าบาท ปัจจุบันลดเหลือประมาณ 1,000 กว่าบาท และการออกรุ่นราคาต่ำกว่า 5,000 บาทปีที่แล้วและต่อเนื่องปีนี้ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น และถือเป็นการขยายฐานตลาดด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของกล้องโกโปรเอง บริษัทแม่ยังมีความพยายามปรับตัวเองจากการเป็นแค่กล้องให้มีความเป็นมีเดียมากขึ้น เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับโลกโซเชียลมีเดียได้สะดวกรวดเร็วด้วย และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องด้วย มีการพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อเชื่อมต่อการใช้งานด้วยทีมวิจัยและพัฒนาที่บริษัทแม่มากกว่า 300 คน
ล่าสุดได้เปิดตัว 2 รุ่นใหม่ คือ โกโปร ฮีโร่ 4 เซสชั่น ราคา 14,800 บาท และ โกโปร ฮีโร่ พลัส แอลซีดี ราคา 10,999 บาท ส่งผลให้ปัจจุบันมีทั้งหมด 5 รุ่น คือ 1.0 โฟร์ แบล็ค ราคา 18,500 บาท สัดส่วนยอดขาย 30% 2. รุ่นซิลเวอร์ ราคา 14,800 บาท สัดส่วนยอดขาย 60% 3. รุ่นฮีโร่เดิม ราคา 4,999 บาท สัดส่วนยอดขาย 10% และ 2 รุ่นใหม่ดังกล่าวข้างต้น
นายณัฐพลกล่าวด้วยว่า ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 800 ล้านบาท โดยมาจากการจำหน่ายกล้องโกโปร สัดส่วนมากกว่า 80% ที่เหลือเป็นสินค้าอื่น เช่น จักรยานแวนมูฟ นาฬิกาทอมทอม กระบอกน้ำซิงค์ เป็นต้น และยังมีการมองหาสินค้าใหม่ๆ แบรนด์ใหม่เข้าทำตลาดเพิ่มขึ้นด้วย