“พาณิชย์” เผยบริษัทตั้งใหม่เดือน มิ.ย. 5.1 พันราย ลดลงแค่ 0.7% ทั้งที่เพิ่มความเข้มงวดในการจดทะเบียนค้าสลาก กำหนดทุนขั้นต่ำ และเข้มทำธุรกิจท่องเที่ยว เผยแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง คาดทั้งปีทะลุ 6-6.5 หมื่นราย หลังครึ่งปีทำได้แล้ว 3.1 หมื่นราย พร้อมลุยจัดการพวกโกงค้าขายสินค้าออนไลน์ สั่งปรับ ส่งดำเนินคดี ปิดเว็บ และส่งสรรพากรสอบภาษี ลั่นทุกรายต้องขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศเดือน มิ.ย. 2558 จำนวน 5,161 ราย เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และจดทะเบียนเลิก 1,322 ราย เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค. 2558 และเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. 2557
ทั้งนี้ ยอดรวมบริษัทตั้งใหม่ช่วง 6 เดือนของปี 2558 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวนรวม 31,557 ราย เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจดทะเบียนเลิก 6,898 ราย เพิ่มขึ้น 18% โดยกรมฯ มั่นใจว่ายอดจดตั้งใหม่ทั้งปี 2558 จะเป็นไปตามเป้าที่คาดไว้ 6-6.5 หมื่นราย
“บริษัทตั้งใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่ากรมฯ จะมีมาตรการเข้มงวดในการรับจดทะเบียนผู้ค้าสลาก เข้มงวดในเรื่องเงินทุนจัดตั้ง และเข้มงวดในการจัดตั้งบริษัทท่องเที่ยว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนที่ทำธุรกิจจริงยังมีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่วนบริษัทที่เลิกกิจการเพิ่มขึ้นก็เนื่องมาจากกรมฯ เข้มงวดกับบริษัทที่ไม่ทำธุรกิจจริง รวมทั้งบริษัทค้าสลากที่มีการจดเลิกเพิ่มขึ้น” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการจัดการกับผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการแจ้งเตือนบุคคลและนิติบุคคลที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการออนไลน์ต้องมาขึ้นทะเบียนกับกรมฯ แต่ปรากฏว่าจนถึงปัจจุบันมีผู้มาขึ้นทะเบียน 12,151 ราย 13,811 เว็บไซต์ ซึ่งยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ค้าขายที่มีอยู่ โดยกรมฯ จะดำเนินการตรวจสอบเว็บไซต์ที่ซื้อขายสินค้าออนไลน์ทั้งหมด หากพบว่าไม่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้องก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจ และส่งดำเนินคดีทุกราย
โดยที่ผ่านมา กรมฯ ได้มีการดำเนินการต่อผู้ค้าขายออนไลน์และทำการฉ้อโกงประชาชนในรูปแบบต่างๆ แล้ว เช่น กรณีสั่งซื้อสินค้าแล้วได้สินค้าไม่ตรงตามที่สั่ง มีทั้งสั่งปรับ แจ้งตำรวจดำเนินคดีฉ้อโกง ปิดเว็บไซต์ ส่งสรรพากรตรวจสอบภาษี โดยผู้ที่ทำการฉ้อโกง หากเป็นผู้ประกอบการที่ไม่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้สั่งปรับ 2,000 บาท และปรับอีกวันละ 200 บาท และยังส่งดำเนินคดีตามกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ด้วย ซึ่งมีโทษปรับเป็นแสนบาท
“กรมฯ เอาจริง และขอบอกว่าจะจัดหนักพวกที่ค้าขายออนไลน์แต่ไม่ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง โดยได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ถ้าเจอก็เรียกมาปรับจนกว่าจะขึ้นทะเบียน ส่วนพวกที่ทำผิด และประชาชนพบว่าถูกหลอกลวง ก็ให้แจ้งมาที่กรมฯ ผ่านสายด่วน 1570 หรือแจ้งไปยัง สคบ. ซึ่งกรมฯ จะร่วมมือกับ สคบ.เข้าไปจัดการ และติดตามดำเนินคดีอย่างจริงจัง”
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า สำหรับนิติบุคคลที่ยังไม่ส่งงบการเงินของปี 2557 หลังจากครบกำหนดตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 2558 ที่ผ่านมา โดยจากการตรวจสอบมีประมาณ 1 แสนราย ซึ่งกรมฯ ขอให้ส่งงบการเงินโดยเร็ว เพราะหากยิ่งล่าช้าก็จะยิ่งเสียค่าปรับมากขึ้น และไม่เพียงแค่นั้น กรมฯ จะยังนำส่งรายชื่อไปให้กรมสรรพากรตรวจสอบภาษีด้วย และหากไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 2-3 ปี กรมฯ ก็จะทำการถอนทะเบียนร้าง ทำให้ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้อีกต่อไป โดยในปี 2558 ที่ผ่านมาได้มีการถอดทะเบียนร้างไปแล้วกว่า 5 พันราย
