“พาณิชย์” จับมือ “ดีดี ธัญการย์” เปิดตัว “ร้านฉลาดซื้อ ประหยัดใช้” ขายสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ 30 ร้านการ ถูกกว่าท้องตลาด 10% นำร่องปักธงในกรุงเทพฯ เริ่มที่รามอินทราสาขาแรก ก่อนขยายอีกเดือนละ 4 สาขา รวมสิ้นปี 14 สาขา ส่วนในภูมิภาค ประสานร้านค้าปลีกค้าส่ง 89 ร้านค้า ร่วมจำหน่ายสินค้าราคาถูกด้วย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดภายหลังเป็นประธานเปิดตัวร้าน “ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้” ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับผู้ค้าส่งค้าปลีกในการทำโครงการร้าน ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้ โดยการนำสินค้าอุปโภคบริโภคประจำวันกว่า 30 รายการ มาจำหน่ายให้ประชาชนในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด 10% เพื่อลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน เบื้องต้นบริษัท ดีดี ธัญการย์ จำกัด จะทำการเปิดร้านค้าจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคประจำวันราคาประหยัด ภายใต้ชื่อ ดีดี ซุปเปอร์มาร์เก็ต นำร่องในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ถนนรามอินทรา เป็นสาขาแรก และจะขยายสาขาอีกเดือนละ 4 สาขา รวมสิ้นปี 14 สาขา
สำหรับในภูมิภาคได้ให้การสนับสนุนร้านค้าส่งค้าปลีกจำนวน 89 ร้านค้า ซึ่งมีสาขา 372 สาขาครอบคลุม 56 จังหวัดทั่วประเทศ จะจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดราคาถูกกว่าท้องตลาดเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่ขายเฉพาะช่วงเวลาโปรโมชั่น แต่เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าราคาประหยัดได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะมีการติดตามประเมินผลเป็นรายไตรมาส และจะสนับสนุนให้เพิ่มร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศในระยะยาวต่อไป
สำหรับสินค้ากว่า 30 รายการ เช่น น้ำปลา, น้ำมันพืช , น้ำยาจ้างจาน , ผงซักฟอก,สบู่, ยาสีฟัน กระดาษชำระ เป็นต้น
“โครงการฉลาดซื้อ ประหยัดใช้ เป็นโครงการที่ช่วยแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการบรรเทาปัญหาค่าครองชีพอื่นๆ เช่น โครงการธงฟ้า โครงการเทใจคืนสุข และร้านอาหารหนูณิชย์ และในระยะต่อไปกระทรวงพาณิชย์เตรียมจัดกิจกรรมอื่นๆ อีก เพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพแก่ประชาชนต่อเนื่อง”นางอภิรดีกล่าว
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ได้ร่วมมือกลุ่มผู้ผลิตเอสเอ็มอี ร้านโชห่วย และธุรกิจขนส่งสินค้า รวมตัวกันจัดตั้งบริษัทไทยยั่งยืน 2015 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ทำธุรกิจเพื่อสังคม โดยให้จะเป็นตัวแทนจำหน่าย กระจายสินค้า จากผู้ผลิตขนาดกลาง ขนาดเล็ก ไปสู่ร้านโชห่วย ร้านค้าปลีกขนาดเล็กทั่วประเทศ ในราคาถูกกว่าท้องตลาด 10-30% เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่ธุรกิจในท้องถิ่นและช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน
“คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวได้ในเดือนส.ค.นี้ โดยสินค้าส่วนหนึ่งจะใช้แบรนด์ไทยยั่งยืนและส่วนหนึ่งในชื่อแบรนด์ท้องถิ่น ซึ่งบริษัทที่ตั้งขึ้นจะเป็นผู้จัดหาสินค้ามาจำหน่ายตามร้านโชห่วยที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ประมาณ 5,000 ร้านทั่วประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภค โดยทางบริษัทจะช่วยกระจายให้ จะไม่คิดค่าโฆษณา ไม่มีคิดค่าแรกเข้า ทำให้สินค้ามีต้นทุนถูกลง แต่มาตรฐานของสินค้าก็เท่ากับสินค้าแบรนด์ดังๆ”นายสมชายกล่าว