“ส.ขอนแก่น” เผยปี 57 ทำกำไร 10% สูงสุดในรอบ 10 ปีจากยอดขาย 2.2 พันล้านบาท เหตุปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น RTE มากขึ้น คาดปี 58 โตต่อเนื่อง 15% สู่เป้า 2.6 พันล้านบาท เดินหน้าลุยธุรกิจร้านอาหารเต็มสูบจากเดิมที่ลงทุนเองสาขาละ 1.2-3 ล้านบาท เตรียมเปิดแฟรนไชส์เพิ่มปลายปี 58 พร้อมลงทุนเพิ่มจาก 34 สาขาเป็น 300 สาขา หวังรายได้ 700-800 ล้านบาทใน 5 ปี
นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “SORKON” ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ในปี 2557 บริษัทฯ มียอดขาย 2.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นการจำหน่ายในประเทศ 90% และส่งออก 10% จากผลิตภัณฑ์ 4 กลุ่ม คือ อาหารพื้นเมืองประเภทแหนม ไส้กรอก หมูยอ และอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ “ส.ขอนแก่น” สัดส่วน 43%, อาหารทะเลและอาหารแช่แข็ง แบรนด์ “แต้จิ๋ว” 39% อาหารขบเคี้ยว แบรนด์ “อองเทร่” 6% ฟาร์มสัตว์เลี้ยง 6% ร้านอาหาร แบรนด์ “แซ่บ” และ “ยูนนาน” 4% และอื่นๆ 2%
บริษัทฯ มีการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลเป็นหลัก เน้นกลุ่มประเทศยุโรป, สหรัฐอเมริกา และอื่นๆ ขณะที่มีการส่งออกผลิตภัณฑ์จากหมูไปยังประเทศฮ่องกงและเกาหลีใต้ แต่ในปี 2558 มีแผนทำตลาดส่งออกมากขึ้น โดยจะเน้นกลุ่มประเทศที่มีประชากรเป็นมุสลิมในตะวันออกกลางและอาเซียนเป็นหลัก หลังจากใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาทในปี 2557 เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตอาหารขบเคี้ยวที่ได้รับเครื่องหมายฮาลาล โดยมีเป้าหมายทำรายได้เพิ่มขึ้น 300-500 ล้านบาทภายใน 3 ปี
“ในปี 2557 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 120 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 10% สูงที่สุดในรอบ 10 ปีที่เติบโตเฉลี่ย 2-3 % หลังประสบความสำเร็จด้านการทำตลาดในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองพร้อมรับประทาน หรือ RTE พร้อมกับการขยายช่องทางตลาดใหม่ในกลุ่มโรงแรมและโรงพยาบาล โดยคาดว่าในปี 2558 จะยังคงสามารถทำยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 15% คิดเป็นมูลค่า 2.6% คิดเป็นมูลค่า 2.6 พันล้านบาท พร้อมปรับสัดส่วนรายได้เป็นในประเทศ 80% ต่างประเทศ 20%” นายเจริญกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/58 มีรายได้รวม 567.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ 526.2 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 33.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30.5 ล้านบาท โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวมีการเติบโตสูงสุดถึง 50% ผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองมีอัตรา 13% ส่วนกลุ่มร้านอาหารบริการด่วนมียอดขายเพิ่มขึ้น 5-6%
ทางด้าน นายจรัสภล รุจิราโสภณ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (สายงาน QSR) บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทฯ เริ่มขยายธุรกิจสู่ร้านอาหารบริการด่วนเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันดำเนินธุรกิจร้านอาหาร 2 ประเภทรวมทั้งสิ้น 34 แห่งคือ ร้านอาหารอีสานประเภทไก่ย่างส้มตำ “แซ่บ” (ZAPP EXPRESS) จำนวน 5 สาขา และร้านข้าวขาหมู “ยูนนาน” จำนวน 27 สาขาในประเทศไทยและ 2 สาขาในประเทศลาว
ในส่วนของร้านอาหาร “แซ่บ” เน้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักคือ หนุ่มสาววัยทำงานโดยปัจจุบันมีการใช้จ่ายคนละประมาณ 200 บาทต่อครั้ง ส่วนร้าน “ยูนนาน” เน้นกลุ่มเป้าหมายทั่วไปที่มีอายุ 25-45 ปี มีการใช้จ่ายคนละประมาณ 85 บาทต่อครั้ง โดยในปี 2558 มีเป้าหมายขยายสาขาร้านอาหาร “แซ่บ” เพิ่ม 2 สาขาเน้นพื้นที่อาคารสำนักงานทั่วไป ขณะเดียวกันยังจะขยายจำนวนร้าน “ยูนนาน” เพิ่มขึ้นอีก 20 สาขา เน้นพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. เป็นหลัก
“ในปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจร้านอาหาร 60 ล้านบาท คิดเป็น 4% ของรายได้รวม โดยคาดว่าในปี 2558 จะมีรายได้เพิ่มเป็น 130 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีว่าจะมีจำนวนร้านอาหารทั้งหมด 300 สาขา สามารถทำรายได้รวมประมาณ 700-800 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของรายได้รวม”
นายจรัสภล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดแฟรนไชส์ร้านอาหารทั้ง 2 ประเภทตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2558 เป็นต้นไป หลังจากที่ผ่านมาบริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด แบ่งเป็นร้าน “แซ่บ” สาขาละประมาณ 3 ล้านบาท ขนาด 50 ที่นั่ง บนพื้นที่ 80 ตารางเมตร ส่วนร้าน “ยูนนาน” ลงทุนประมาณ 1.2 ล้านบาทต่อสาขา ขนาด 12 ที่นั่ง บนพื้นที่ 30 ตารางเมตรขึ้นไป โดยระยะยาวยังมีแผนเพิ่มจำนวนสาขาร้านยูนนานตามจำนวนสถานีบริการน้ำมัน ปตท. กว่า 1.5 พันแห่งทั่วประเทศ
“ภายในปี 2558 บริษัทฯ ยังมีแผนขยายสาขาร้านยูนนานในลักษณะแสตนด์อโลนนอกพื้นที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. หลังจากที่ใช้เวลาศึกษาแผนการตลาดและเส้นทางขนส่งและกระจายสินค้าเป็นเวลา 2 ปี โดยจะเน้นหัวเมืองใหญ่ที่มีคนไทยเชื้อสายจีนที่มีกำลังซื้อสูงพักอาศัยเป็นจำนวนมากในภาคใต้ ตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น หาดใหญ่ ภูเก็ต ชลบุรี พัทยา ขอนแก่น และอุดรธานี เป็นต้น” นายจรัสภล กล่าวในที่สุด