เอกชนประเมินอียูให้ใบเหลืองประมงไทย ไม่กระทบส่งออก เหตุผู้นำเข้าส่วนใหญ่เข้าใจไทย แต่อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์บ้าง ยังเชื่ออีก 6 เดือนข้างหน้า มีข่าวดี หลังรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาและออกกฎหมายจริงจัง
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย เปิดเผยว่า หากคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปลงมติภาคทัณฑ์ หรือให้ใบเหลืองกิจการประมงของประเทศไทย จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาคประมงและการส่งออกสินค้าประมงไปยังยุโรป เพราะจะยังไม่มีการยกเลิกและลดคำสั่งซื้อ เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีความใกล้ชิดกับผู้นำเข้าสินค้าในยุโรป ทำให้สามารถพูดคุยกันได้
อย่างไรก็ตาม อาจจะส่งผลกระทบบ้างเล็กน้อยในส่วนของภาพลักษณ์สินค้าไทย แต่เชื่อว่าจากความตั้งใจของรัฐบาลในการเร่งรัดแก้ไขปัญหาและออกกฎหมายเกี่ยวกับประมง เชื่อว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า เมื่อคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปเดินทางมาตรวจสอบอีกครั้ง ไทยน่าจะสามารถหลุดจากปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสินค้าประมงอย่างแท้จริง จะเป็นเรื่องของปัญหาการถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้า (จีเอสพี) และปัญหาของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่าคู่แข่งมากกว่า
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียมการมานานพอสมควรในการแก้ไขปัญหาประมงไทย โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และยังมีการออกกฎหมายเพิ่มเติมหลายฉบับ ซึ่งอาจจะประกาศใช้ไม่ทันในช่วงนี้ แต่เชื่อว่าภายในระยะ 6 เดือนข้างหน้า จะดีขึ้นแน่นอน
รายงานข่าวจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แจ้งว่า การส่งออกสินค้าอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ไทยไปยังสหภาพยุโรป ปี 2555 มีมูลค่า 611.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2556 มูลค่า 646.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2557 มูลค่า 389.3 ล้านเหรียญสหรัฐ และช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.2558 มูลค่า 46 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 21.12% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน