เจเอเอส แอสเซ็ท ตอกย้ำความสำเร็จธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ “The Jas” ทุ่มงบกว่า 500 ลบ.สยายปีกโครงการ “The Jas รามอินทรา” ศูนย์การค้าชุมชนของคนรุ่นใหม่ใกล้บ้านคุณ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างแล้วกว่า 60% พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการกันยายนนี้ มั่นใจสร้างรายได้ปีละ 60 ล้านบาท
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ของบริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) (บริษัทในเครือเจมาร์ท) ในธุรกิจด้านบริหารพื้นที่มากว่า 14 ปี และจากความสำเร็จในการเปิดตัวศูนย์การค้าชุมชนแห่งแรก ภายใต้ชื่อ “The Jas” วังหิน ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จนได้รับการตอบรับเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพันธมิตร คู่ค้า ร้านค้าที่มีจำนวนการเช่าพื้นที่เต็ม 100% เพื่อตอกย้ำความสำเร็จของโครงการแรกที่ได้รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มาไว้ใกล้บ้านคุณ บริษัทจึงมีความพร้อมสำหรับศูนย์การค้าชุมชนแห่งที่ 2 “The Jas รามอินทรา” ที่จะเปิดให้บริการในช่วงกันยายนนี้ โดยที่ทางบริษัทฯ มีแผนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงไตรมาสที่ 2 เพื่อการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ
นางสาวนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.เจเอเอส แอสเซ็ท กล่าวว่า สำหรับโครงการศูนย์การค้าชุมชน The Jas รามอินทรา ได้ใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 500 ล้านบาทพัฒนาพื้นที่ย่านถนนรามอินทรา บนพื้นที่ดินกว่า 9 ไร่ พื้นที่ก่อสร้างกว่า 28,000 ตร.ม. พื้นที่ขายกว่า 12,000 ตร.ม. มีพื้นที่จอดรถได้กว่า 350 คัน ภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบของโครงการให้เป็นงานสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย ผสมผสานกับความสนุกสนานผ่านเรื่องราวของดนตรีให้มีความสอดคล้องกับชื่อ “The Jas” ซึ่งทำเลดังกล่าวรายล้อมไปด้วยโครงการที่อยู่อาศัยที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น คอนโดฯ ลุมพินี, หมู่บ้านอารียา และหมู่บ้านระดับพรีเมียม บางกอกบูเลอวาร์ดอีกหลายโครงการ ใกล้สถานศึกษา เช่น ร.ร.วัดลาดปลาเค้า และใกล้กับสนามมวยลุมพินีแห่งใหม่ รวมถึงเป็นส่วนต่อขยายของสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการเดินทางสะดวกสบายเชื่อมต่อไปยังถนนต่างๆ โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะใช้บริการจะเป็นระดับ B ขึ้นไป กลุ่มครอบครัว คนทำงาน คนวัยเรียน และผู้คนที่ใช้เส้นทางนั้น
ปัจจุบัน The Jas รามอินทรา กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 60% ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณเดือนกันยายนนี้ ขณะนี้มีร้านค้าสนใจและทำสัญญาจองพื้นที่แล้วกว่า 75% เช่น Max value 24 ชม., Wine connection, Swensens, MK, Yayoi, Boots, Mo Mo Paradise, Tokhai, Chefman และ Exclusive Fitness เป็นต้น โดยคาดว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างรายได้ปีละกว่า 60 ล้านบาท
“ด้วยขนาดพื้นที่ The Jas รามอินทรา ที่มีขนาดที่ดินกว่า 9 ไร่ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าสาขาวังหินเกือบ 2 เท่า ทำให้มีความหลากหลายของร้านค้าที่มากขึ้น จึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องไม่ต่างจาก The Jas วังหิน อย่างแน่นอน” นงลักษณ์กล่าวทิ้งท้าย
อนึ่ง บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท ดำเนินธุรกิจด้านบริหารพื้นที่มากว่า 14 ปี จนประสบความสำเร็จการบริการพื้นที่เช่า IT JUNCTION ที่มีสาขากว่า 44 สาขาทั่วประเทศ มีร้านค้าจำหน่ายโทรศัพท์มือถือเช่ากว่า 1,400 ร้านค้า และการบริหารโครงการในรูปแบบของศูนย์การค้าชุมชน โดยใช้ชื่อว่า The Jas วังหิน เป็นสาขาแรก และเตรียมเปิดให้บริการในสาขารามอินทราต่อไป
