ก.พลังงานสนองนโยบาย “บิ๊กตู่” เร่งประสานทุกฝ่ายสรุปแนวทางการส่งเสริมลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย หวังเห็นได้ภายใน 5 ปี ขณะที่ “บีโอไอ” คาดสรุปเสนอผลศึกษาต่อบอร์ดพิจารณาได้ภายในไม่เกิน 2 เดือนนี้ แย้ม ปลั๊กอิน ไฮบริดน่าจะเกิดได้นำร่องก่อนเป็นไฟฟ้า 100% ด้านกูรูรถชี้ไทยไม่ทำวันนี้ก็หมดโอกาส เทรนด์โลกอยู่ 50 ปีก็ไป
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงานการให้ความรู้สื่อมวลชน (Energy Forum) ครั้งที่ 3 เรื่อง อนาคตยานยนต์ไฟฟ้ากับการพัฒนาพลังงาน ว่า จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้มีการศึกษาร่วมกันในการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้น ขณะนี้กระทรวงฯ ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ โดยคาดว่าไทยจะเห็นการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าออกมาได้ภายใน 5 ปีนี้
“ทั่วโลกกำลังนิยมรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งไทยคงจะมองไปแต่ต้องเตรียมการให้พร้อมทั้งการใช้ในเมืองและการวิ่งระยะไกลให้ได้ และจะต้องวางแผนรองรับเรื่องต่างๆ ภายใน 5 ปีนี้ก็น่าจะเห็นได้ โดยเฉพาะรถไฮบริดก็จะไม่ต้องมีระบบรองรับมาก ซึ่งรัฐเองก็คงจะส่งเสริมให้เกิดรถที่ใช้ในเมืองซึ่งก็ต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของสถานีบริการชาร์จไฟ เปลี่ยนแบตเตอรี่ โดยจะต้องแก้ไขพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องเพื่อเปิดให้มีการตั้งปั๊มชาร์จไฟได้” รมว.พลังงานกล่าว
นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ขณะนี้บีโอไอได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อหารือถึงแนวทางดังกล่าวแล้ว คาดว่าไม่เกิน 2 เดือนข้างหน้าจะได้ข้อสรุปเพื่อนำเสนอขอความเห็นจากบอร์ดบีโอไอได้ โดยโจทย์ใหญ่ที่จะต้องหารือคือนักลงทุนมีความสนใจมากน้อยเพียงใดภายใต้เงื่อนไขอย่างไรเป็นสำคัญ
“เราก็หารือบ้างแล้ว นักลงทุนบางรายก็สนใจและคิดว่าระยะแรกความเป็นไปได้ในการผลิตคือรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug in Hybrid) คือเสียบปลั๊กใช้ไฟได้เมื่อต้องการไม่ต้องการก็ทำงานเหมือนรถไฮบริด และมีแบตเตอรี่ความเร็วสูงพร้อมที่จะวิ่งระยะไกลได้ แต่ก็ต้องดูตลาดว่าเป็นอย่างไร ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% นั้นจะตามมาภายหลัง” นายโชคดีกล่าว
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือรัฐโดยกระทรวงพลังงานเองก็จะต้องชัดเจนถึงสถานีการชาร์จไฟที่ใครจะเป็นผู้ลงทุนเพื่อให้ความมั่นใจกับผู้ใช้และให้ผู้ผลิตมองเห็นตลาด ส่วนสิทธิประโยชน์ที่จะจูงใจก็จะต้องมาพิจารณาถึงเงื่อนไขภาษีฯ ทั้งสรรพสามิต สิทธิประโยชน์บีโอไอ และอื่นๆ ที่จะต้องมองความคุ้มทุนของทั้งผู้ใช้ ผู้ลงทุน และรถ เพื่อกำหนดเงื่อนไขการส่งเสริมฯ การผลิตต่อไป
นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ กล่าวว่า มองว่าหากไทยจะเริ่มส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าก็ต้องเริ่มทันที เพราะเทรนด์ของโลกนั้นเขาไปแล้ว และมองว่ารถประเภทนี้จะอยู่เพียงแค่ 50 ปีก็จะมีการมองไปยังเทคโนโลยีอื่นแทน โดยเฉพาะเทคโนโลยีไฮโดรเจนที่กำลังจะมา