กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมเสนอ “ครม.” ภายใน เม.ย.นี้ เคาะเกณฑ์กำหนดระยะห่างที่ตั้งโรงงานน้ำตาลทรายใหม่จากไม่น้อยกว่า 80 กิโลเมตร คาดแนวโน้มเป็นไม่น้อยกว่า 50 กิโลเมตร พร้อมลั่นปล่อยผีใบอนุญาตขอย้าย และขยายโรงงานใหม่รวม 50 แห่งภายใน 90 วัน แย้มรัฐเล็งใช้ระบบอ้อยฯ เป็นต้นแบบกับพืชอื่นเช่น ยางพารา
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในงานประชุมสามัญประจำปีของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ภายใน เม.ย.นี้กระทรวงอุตสาหกรรมจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติหลักเกณฑ์การกำหนดระยะห่างที่ตั้งโรงงานน้ำตาลทรายจากเดิมกำหนดไว้ต้องห่างไม่น้อยกว่า 80 กิโลเมตรโดยหลักเกณฑ์ใหม่จะต่ำกว่า ทั้งนี้ เมื่อหลักเกณฑ์ดังกล่าวชัดเจนแล้วกระทรวงฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเร่งพิจารณาการขอใบอนุญาตย้ายและขยายโรงงานน้ำตาลทราย 50 แห่งที่ค้างการพิจารณาอนุมัติภายใน 90 วันให้แล้วเสร็จ
“ระยะห่างระหว่างโรงงานน้ำตาล 80 กิโลเมตรนั้นจุดประสงค์เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งอ้อยกัน แต่ที่ผ่านมาก็มีปัญหาบางรายต่ำกว่ากำหนดจึงทำให้การพิจารณาการขอย้าย และขยายโรงงานใหม่ประมาณ 50 แห่งต้องหยุดไปด้วย ซึ่งเกณฑ์ใหม่จะมีทางเลือกขึ้นอยู่กับ ครม.จะพิจารณา คาดว่าจะอยู่ประมาณ 40-50 กิโลเมตร เมื่อเกณฑ์ชัดคิดว่าจะสามารถเคลียร์ใบอนุญาตการยื่นขอย้ายและขยายโรงงานได้ภายใน 90 วันจากที่ ครม.อนุมัติ แต่จะให้ได้ทั้งหมดหรือไม่นั้นจะต้องคำนึงถึงปริมาณอ้อยในอนาคตด้วย” รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
ปัจจุบันโรงงานน้ำตาลทรายของไทยมีอยู่ประมาณ 52 แห่ง มีกำลังการผลิตใกล้เคียงกับอ้อยที่ปลูกอยู่ในขณะนี้ และไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลทรายอันดับ 2 ของโลก แต่รัฐบาลมีนโยบายที่จะส่งเสริมการนำนาปรังมาปลูกอ้อยแทนเพื่อลดปัญหาราคาข้าวตกต่ำ เนื่องจากเห็นว่าระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นพืชเพียงชนิดเดียวที่มีระบบดูแลตัวเองที่มีประสิทธิภาพ
นายจักรมณฑ์กล่าวว่า จากกรณีที่ราคาพืชเกษตรหลายชนิดมีราคาตกต่ำทำให้รัฐมองแนวทางการพัฒนาพืชเกษตรอื่นๆ เช่น ยางพารา ในลักษณะเดียวกับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยจะมีกองทุนขึ้นมาดูแลราคาให้มีเสถียรภาพ โดยอาจจะใช้งบประมาณจากภาครัฐบาลในเบื้องต้นก่อน เหมือนกับที่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายกำหนดราคาอ้อยขั้นต่ำเอาไว้แล้วใช้กองทุนอ้อยและน้ำตาลในการดูแลราคาให้ได้ตามต้นทุน