“ศาลปกครองสูงสุด” มีคำสั่งยืนไม่รับฟ้อง บมจ.น้ำตาลขอนแก่น-ชาวไร่ ฟ้อง ก.อุตสาหกรรม ไม่ออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการใหม่ ชี้ยังไม่ได้สิทธิตั้งโรงงานจึงไม่มีสิทธิอ้างเสียหาย-ไม่ใช่ผู้เดือดร้อน
วันนี้ (1 เม.ย.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องคดีที่ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น และกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดเลย กับพวกรวม 18 คน ยื่นฟ้องกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และรองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีคำสั่งไม่ออกใบอนุญาตให้ บมจ.ขอนแก่น ประกอบกิจการโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ที่ อ.วังสะพุง จ.เลย เนื่องจากเห็นว่าที่ตั้งโรงงานน้ำตาลขอนแก่นแห่งใหม่อยู่ห่างจากที่ตั้งโรงงานน้ำเอราวัณ เพียง 50.3 กม. ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงอุตสาหกรรมที่กำหนดให้โรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ต้องมีระยะห่างของโรงงานน้ำตาลที่มีอยู่เดิมไม่น้อยกว่า 80 กม. เป็นเหตุให้ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น และกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดเลย คู่สัญญาได้รับเสียหาย
ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลไม่รับคำฟ้องว่า จากข้อเท็จจริงในคดีนี้ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น ยังไม่ได้เป็นผู้มีสิทธิได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงงาน สิทธิในการเป็นผู้ได้รับอนุญาตจึงยังไม่ถูกกระทบ จึงไม่อาจอ้างว่าได้รับความเสียหาย ส่วนกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดเลย กับพวกรวม 16 คนนั้นไม่ได้เป็นผู้ประกอบกิจการโรงงานน้ำตาล และไม่ได้เป็นผู้ยื่นคำขอออกใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานน้ำตาล กลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดเลยกับพวกรวม 16 คนจึงไม่ได้เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากหลักเกณฑ์ที่กำหนดระยะห่างระหว่างโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่กับโรงงานน้ำตาลในพื้นที่ เรื่องเงื่อนไขการย้ายสถานที่ตั้งและขยายกำลังการผลิตของโรงงานน้ำตาล เมื่อวินิจฉัยแล้วว่า บมจ.น้ำตาลขอนแก่น และกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดเลย กับพวกรวม 18 คน ไม่ใช่ผู้เดือดร้อนเสียหายที่มีสิทธิมาฟ้องคดีนี้ต่อศาลปกครอง การที่การที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย
วันนี้ (1 เม.ย.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องคดีที่ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น และกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดเลย กับพวกรวม 18 คน ยื่นฟ้องกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และรองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีคำสั่งไม่ออกใบอนุญาตให้ บมจ.ขอนแก่น ประกอบกิจการโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ที่ อ.วังสะพุง จ.เลย เนื่องจากเห็นว่าที่ตั้งโรงงานน้ำตาลขอนแก่นแห่งใหม่อยู่ห่างจากที่ตั้งโรงงานน้ำเอราวัณ เพียง 50.3 กม. ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงอุตสาหกรรมที่กำหนดให้โรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ต้องมีระยะห่างของโรงงานน้ำตาลที่มีอยู่เดิมไม่น้อยกว่า 80 กม. เป็นเหตุให้ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น และกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดเลย คู่สัญญาได้รับเสียหาย
ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลไม่รับคำฟ้องว่า จากข้อเท็จจริงในคดีนี้ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น ยังไม่ได้เป็นผู้มีสิทธิได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงงาน สิทธิในการเป็นผู้ได้รับอนุญาตจึงยังไม่ถูกกระทบ จึงไม่อาจอ้างว่าได้รับความเสียหาย ส่วนกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดเลย กับพวกรวม 16 คนนั้นไม่ได้เป็นผู้ประกอบกิจการโรงงานน้ำตาล และไม่ได้เป็นผู้ยื่นคำขอออกใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานน้ำตาล กลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดเลยกับพวกรวม 16 คนจึงไม่ได้เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากหลักเกณฑ์ที่กำหนดระยะห่างระหว่างโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่กับโรงงานน้ำตาลในพื้นที่ เรื่องเงื่อนไขการย้ายสถานที่ตั้งและขยายกำลังการผลิตของโรงงานน้ำตาล เมื่อวินิจฉัยแล้วว่า บมจ.น้ำตาลขอนแก่น และกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดเลย กับพวกรวม 18 คน ไม่ใช่ผู้เดือดร้อนเสียหายที่มีสิทธิมาฟ้องคดีนี้ต่อศาลปกครอง การที่การที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย