xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีทองพาณิชย์” ดันยอดขายอสังหาฯ-ฟูด ลดเสี่ยงนาฬิกา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“วิภาวรรณ มหาดำรงกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด
ASTVผู้จัดการรายวัน - “ศรีทองพาณิชย์” แตกธุรกิจเพิ่ม ลดความเสี่ยงจากการขายนาฬิกาอย่างเดียวที่เริ่มเติบโตอืด ผุดกลุ่มใหม่ “อสังหาฯ-อาหาร” เสริมทัพสร้างแกร่งธุรกิจ

นางวิภาวรรณ มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายนาฬิการายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางแผนขยายธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มอย่างจริงจังเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ และลดความเสี่ยงธุรกิจที่เป็นผู้จัดจำหน่ายนาฬิกาอย่างเดียวมานาน ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ช้าลงทั้งจากทางตรงและทางอ้อม เช่น มือถือและแกดเจ็ตต่างๆ โดยจะดำเนินการ 3 กลุ่มหลัก คือ 1. ตัวแทนจำหน่ายนาฬิกา 2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์-โรงแรม ซึ่งเริ่มบ้างแล้วและจากนี้จะให้ความสำคัญมากขึ้น และ 3. ธุรกิจอาหารที่อยู่ระหว่างการศึกษา

“การขยายธุรกิจใน 3 กลุ่มนี้เพราะมองว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวและเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ทำให้มีนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเข้ามาเมืองไทยเป็นจำนวนมากย่อมส่งผลดีต่อการค้าขาย โดยเฉพาะเรื่องการชอปปิ้งสินค้า แฟชั่นแบรนด์เนมอย่างนาฬิกา ธุรกิจโรงแรมและอาหาร ที่จะรองรับตลาดได้ดี” นางวิภาวรรณกล่าว

อย่างไรก็ตาม กลุ่มนาฬิกายังขยายตัวต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์บูโลวา จะเปิดตัวเดือนหน้า และคาดว่าในปี 2558 จะมีแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 1 แบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์เช่นเดิม จากปัจจุบันนี้มีหลายแบรนด์ที่บริษัทฯ ทำตลาด เช่น ซิติเซ็น, มิโด, บอลล์, แฮมิลตัน เป็นต้น รายได้กลุ่มนาฬิกาปีที่แล้วมีประมาณ 850 ล้านบาท เติบโต 5% จากปี 2556 และคาดว่าปีนี้จะเติบโต 15%

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันมีอาคารสำนักงานให้เช่า 2 แห่ง คือ “เลอคองคอร์ด รัชดาภิเษก” และตึก “เอ็มดี” ถ.บางนา-ตราด ซึ่งเช่าเต็ม 100% รายได้ 800 ล้านบาท คาดปีนี้โต 10% และอีก 1 โรงแรมคือสวิสโซเทลรัชดาภิเษก ทำมา 14 ปีแล้ว ปีนี้ลงทุน 350 ล้านบาทรีโนเวตใหญ่ มี 407 ห้องพัก ปรับราคาขึ้น 50% ปีที่แล้วมีรายได้ 630 ล้านบาท อัตราเข้าพัก 78% ส่วน 2 เดือนแรกปีนี้อัตราเข้าพัก 89% คาดทั้งปีโต 15%

แผนพัฒนากลุ่มอสังหาฯ จากนี้จะลงทุน 1,500 ล้านบาท สร้างโรงแรมแห่งที่สองชื่อ เรอเนซองส์พัทยาโฮเต็ลแอนด์รีสอร์ต ในนามบริษัท เดอะ ไนน์ โซเทล จำกัด เป็นโลว์ไรส์ พื้นที่ 7 ไร่ จำนวน 252 ห้อง จ้างเชนแมริออทมาบริหาร คาดว่าจะเปิดบริการปลายปี 2559 ขณะเดียวกันยังมีแลนด์แบงก์หลายแห่ง เช่น กรุงเทพฯ 2 แปลงรวม 8 ไร่ และที่หาดพลอยแดงรวม 40 ไร่ เป็นต้น คาดว่าอีกประมาณ 5 ปีจะมีโรงแรม 4 แห่ง ส่วนจังหวัดที่น่าสนใจและศึกษาไว้เช่นกันแต่ยังไม่มีแลนด์แบงก์ เช่น ภูเก็ต กระบี่ เป็นต้น

ส่วนธุรกิจอาหาร ปัจจุบันจะมีร้านอาหารในเครือที่เปิดบริการอยู่แล้วในโรงแรม เช่น ร้านทาคูมิ อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการทำธุรกิจของกลุ่มอาหารว่าจะดำเนินการอย่างไร

ทั้งนี้ รายได้รวมของบริษัทฯ เมื่อปีที่แล้วมีประมาณ 2,280 ล้านบาท แบ่งเป็นนาฬิกา 850 ล้านบาท โรงแรม 630 ล้านบาท และอาคารสำนักงาน 800 ล้านบาท โดยคาดว่าทั้งปี 2558 บริษัทฯ จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10%




กำลังโหลดความคิดเห็น