ปีทองอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ฮีโร่ฟอร์มยักษ์จ่อคิวลงฉายเพียบ ส่งโฆษณาในโรงภาพยนตร์รุ่ง คาดทั้งปีโต 10% สวนทางภาพรวมโฆษณาปีนี้ที่คาดว่าดีสุดคือทรงตัว “เมเจอร์” ทะยานปรับราคาโฆษณาขึ้นอีก 5-10% พร้อมลงทุนต่อเนื่อง ชูบิ๊กอีเวนต์มัดใจกลุ่มเป้าหมาย เชื่อดันรายได้โฆษณาโต 10% จาก 1.1 พันล้านบาทในปีก่อน
นายนิธิ พัฒนภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจสื่อโฆษณา เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณามูลค่า 1 แสนกว่าล้านบาทปีนี้อย่างดีที่สุดน่าจะทรงตัวเท่าปีก่อน จากปีก่อนติดลบไปเล็กน้อย โดยมองว่าสื่อทีวีดิจิตอลเริ่มจะเห็นเม็ดเงินบ้างแล้วแต่ยังไม่โดดเด่นและคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ซึ่งขณะนี้มีเพียง 2-3 ช่องเท่านั้นที่เห็นการใช้เม็ดเงินโฆษณาชัดเจน จึงไม่ได้มองเป็นคู่แข่งกับสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์
เนื่องจากสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ถือเป็นสื่อที่มีรูปแบบเฉพาะตัว มองเห็นกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และสามารถทำโฆษณาได้หลากหลายรูปแบบทั้งออนแอร์และออนกราวนด์ บวกกับในปีนี้เป็นปีที่มีรายชื่อภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากต่างประเทศเข้ามาตลอดปี จึงถือเป็นปีทองของอุตสาหกรรมภาพยนตร์อีกปีหนึ่ง และน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ปีนี้จะยังคงมีอัตราการเติบโตได้กว่า 10%
“ช่วงไตรมาสแรกนี้ยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวของลูกค้าในการซื้อโฆษณา โดยรวมค่อนข้างนิ่ง อาจเป็นเพราะไม่ใช่หน้าขายสินค้า ซึ่งต้องรอดูในช่วงเดือน เม.ย.เป็นต้นไปน่าจะเห็นความเคลื่อนไหวชัดเจนขึ้น ซึ่งในปีนี้มองว่าภาพรวมโฆษณาดีที่สุดอาจจะทำได้ทรงตัวเท่าปีก่อน โดยสื่อทีวีดิจิตอลจะดีกว่าปีก่อน แต่ยังต้องดูความชัดเจนอีกสักระยะจึงจะเห็นเม็ดเงินที่ชัดเจนขึ้น”
ในส่วนของ “เมเจอร์แอด” ปีนี้ยังคงลงทุนต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าปีก่อน สำหรับการปรับปรุงอุปกรณ์จอโทรทัศน์ในโรงภาพยนตร์เดิมและสาขาใหม่ที่จะเปิดเพิ่มอีก 90 สาขาในปีนี้ อีกทั้งยังมีการปรับราคาโฆษณาเฉลี่ยขึ้นอีก 5-10% รวมถึงการรุกในส่วนของการจัดอีเวนต์ใหญ่อีก 3-4 งาน เจาะกลุ่มเป้าหมายหลักของ “เมเจอร์ฯ” จึงน่าจะส่งผลให้ภาพรวมรายได้ของ “เมเจอร์แอด” ปีนี้จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% จาก 1.1 พันกว่าล้านบาท เติบโต 7-8% ที่ทำได้ในปีก่อน หรือยังคงมีแชร์ที่ 70% ของสื่อในโรงภาพยนตร์โดยรวม
ล่าสุดได้จับมือกับ บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จัดงาน “ช้าง-เมเจอร์ มูฟวี่ ออน เดอะ บีช แอนด์ คอนเสิร์ต” ที่หาดชะอำ (หน้าร้านปลาทู) ให้เป็นเวทีคอนเสิร์ตและชมภาพยนตร์ในที่เดียว ภายใต้งบลงทุนกว่า 10 ล้านบาท จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 3 พันคน นอกจากนี้ยังเตรียมจัดบิ๊กอีเวนต์ในรูปแบบเอนเตอร์เทนเมนต์ที่มีภาพยนตร์เข้าไปเกี่ยวข้องอีก 2-3 งาน ส่วนหนึ่งเป็นการฉลองเมเจอร์ครบ 20 ปี น่าจะช่วยให้เม็ดเงินรวม “เมเจอร์แอด” ทำได้ดีขึ้น หรือรายได้จากอีเวนต์น่าจะอยู่ที่ 5% ของรายได้รวม “เมเจอร์แอด” ทั้งหมด
