“บันนี่ เวนเจอร์” ผู้ถือลิขสิทธิ์ “เพลย์บอย” ในไทยเดินเกมรุกปลุกปั้น “เพลย์บอย” ลุยทุกแพลตฟอร์ม ปีนี้โหมกลุ่มมีเดีย ตั้งเป้าเป็นแฟนเพจที่มีผู้ติดตามมากที่สุด หวังจะโค่น “ช่อง 7” ให้ได้ พร้อมออกสินค้าเมอร์ชันไดซ์ปีนี้
นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท บันนี่เวนเจอร์ จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์นิตยสาร “เพลย์บอย” ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนประมาณ 30-40 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เพื่อลงทุนและต่อยอดธุรกิจ 2 กลุ่มคือ 1.มีเดียแพลตฟอร์ม สัดส่วนรายได้ปีที่แล้ว 35% กับกลุ่มใหม่ที่จะเริ่มปีนี้คือ 2.สินค้า หรือเมอร์ชันไดซ์และบริการเพลย์บอย
จากทั้งหมด 5 กลุ่มหลักซึ่งที่เหลือเริ่มไปแล้วคือ 3.พับลิชชิ่ง สัดส่วนรายได้ 25% 4.คอนเทนต์โพรวายเดอร์ สัดส่วนรายได้ 30% และ 5.เพลย์บอยเซอร์วิส สัดส่วนรายได้ 10% โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้รวม 160 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วเท่าตัวที่มีรายได้ 80 ล้านบาท มาจากการขยายตัวทางด้านโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างจุดแข็งให้เพลย์บอย รวมทั้งการขยายธุรกิจด้านสินค้าและบริการใหม่ๆ
สำหรับมีเดียแพลตฟอร์มปีนี้ตั้งเป้าหมายมีแฟนเพจทั้งหมดจากตัวบริษัทเพลย์บอยและสาวบันนี่ที่ 15 ล้านรายและก้าวขึ้นติดท็อปเท็นในโซเชียลมีเดียรวม โดยตั้งป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในแง่ของแฟนเพจมีเดียเท่านั้น โดยแซงหน้าอันดับที่ 1 เดิมขณะนี้คือ ช่อง 7 ที่มีประมาณ 4.5 ล้านราย
ปัจจุบันตัวเลขที่บริษัทฯ รวบรวมไว้แค่เดือนมกราคม 2558 เดือนเดียวพบว่าแฟนเพจเฟซบุ๊ก Playboy Thailand มียอดผู้ติดตามแฟนเพจถึง 3.2 ล้านราย เพิ่มเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับกลางปีที่ผ่านมา ก้าวขึ้นเป็นอันดับที่ 2 ของยอดติดตามสูงสุดในกลุ่มเฟซบุ๊กแฟนเพจประเภทมีเดียในไทย จากการจัดอันดับของ Socialbakers ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี ส่วนการจัดอันดับรวมทุกประเภทนั้น Playboy Thailand มีผู้ติดตามผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจมากที่สุดเป็นอันดับที่ 16 ของประเทศไทย โดยอันดับ 1 ภาพรวมเป็นตัวบุคคลคือ “มาริโอ้ เมาเร่อ”
นอกจากนี้ กลุ่ม Playboy Thailand ยังมีแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ Playboy Bunny 15 คน ซึ่งแต่ละรายก็มียอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก โดย Playboy Bunny ที่มียอดผู้ติดตามสูงสุดถึง 1.2 ล้านราย และหากรวมแฟนเพจ หรือผู้ติดตาม Playboy Thailand และ Playboy Bunnies ทั้งเฟซบุ๊กและไอจี จะมีผู้ติดตามสูงถึง 9 ล้านราย สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่ม Playboy Thailand ในช่องทางโซเชียลมีเดียที่มีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพสูงในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายหลัก คือกลุ่มผู้ชายซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 80%
“การขยายตัวด้านโซเชียลมีเดียของเพลย์บอยทำให้สื่อออนไลน์ของเพลย์บอยเป็นช่องทางการสื่อสารที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพการสร้างรายได้จากเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ที่ขยายตัวดี เนื่องจากแฟนเพจเฟซบุ๊กของเพลย์บอยมีผู้ติดตามถึง 3.2 ล้านราย สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มนิตยสารสำหรับผู้ชาย เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง FHM และ MAXIM ที่มียอดผู้ติดตาม 7.3 แสนราย และ 5.8 แสนรายตามลำดับ ส่งผลให้โซเชียลมีเดียของเพลย์บอยเป็นช่องทางสื่อสารที่มีศักยภาพที่ดีสำหรับเจ้าของสินค้า หรือนักการตลาดที่จะวางแผนการใช้เงินซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชายที่มีการศึกษา รสนิยมดีมีระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
นายฉัตรมงคล กล่าวว่า ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจากับไลน์ซึ่งเบื้องต้นได้รับอนุมัติในหลักการเป็นออฟฟิศเชียลแอ็กเคานต์เพื่อทำสติกเกอร์ทั้งฟรีและขาย คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีปริมาณ 15 ล้านรายที่โหลดสติกเกอร์ของเพลย์บอย ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ใช้ไลน์ 33 ล้านคนมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากญี่ปุ่นที่มีประมาณ 54 ล้านราย ส่วนอันดับที่สามของโลกคือ อินโดนีเซีย และภายในไตรมาสที่สองเตรียมเปิดต้วแอปพลิเคชันที่เป็นโซเชียลเกมดาวน์โหลดคอนเทนต์
“ปีนี้เตรียมเปิดตัวสินค้าเมอร์ชันไดซ์เพลย์บอย โดย เพลย์บอย เป็นคนทำตลาดผ่านสื่อของตัวเองและบันนี่เกิร์ลที่มี 15 คน และมีเครือข่ายนางแบบอีกกว่า 1 พันคน ส่วนพันธมิตรจะเป็นผู้ผลิตสินค้าและเตรียมที่จะผลิตรายการเพื่อป้อนทีวีดิจิตอลอีกด้วย”
นายฉัตรมงคล กล่าวว่า บริษัทฯ ได้รุกตลาดผ่านเครือข่ายโซเชียลมีเดียอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ประสบความสำเร็จในการขยายเครือข่ายแฟนเพจสู่ผู้ติดตามในสื่อสังคมออนไลน์ของ Playboy Thailand ที่เติบโตก้าวกระโดด ทำให้สามารถใช้ช่องทางนี้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและสามารถชิงเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ได้