ทีวีดิจิตอลเดินหน้าลุยเต็มสูบ “จีเอ็มเอ็ม 25” ควัก 1,200 ล้านบาทอัดคอนเทนต์เสิร์ฟหน้าจอตลอดปี ล่าสุดส่งคอนเทนต์ใหม่ได้ 60% แล้ว ชูแคมเปญเปิดช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ได้โตโยต้าอัลติส 3 คันใน 3 เดือนนี้ มั่นใจดันรายได้ทั้งปีสู่เป้า 700 ล้านบาทตามแผน
นางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทยังคงใช้งบลงทุนรวมที่ 1,200 ล้านบาทตามแผนเดิมที่วางไว้ในการพัฒนาช่อง จีเอ็มเอ็ม 25 อย่างต่อเนื่องตลอดปี ทั้งการเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ ซึ่งล่าสุดในเดือน ก.พ.นี้จะมีรายการใหม่ๆ ป้อนเข้ามาเพิ่มอีก เช่น เกมวัดดวง, โป๊ะป๊ะนัตโตะ เป็นต้น ส่งผลให้มีรายการใหม่เข้ามาแล้วกว่า 60% ซึ่งจะยังคงทยอยปรับเข้ามาอีกตลอดทั้งปี
ขณะที่ปัจจุบันรายการคลับฟรายเดย์ เดอะซีรีส์ ถือเป็นรายการที่มีเรตติ้งสูงสุด และโฆษณาเข้าเต็มในเวลานี้ หรือเฉลี่ยเรตโฆษณาอยู่ที่ 1.5 แสนบาทต่อนาที ซึ่งในปีนี้ทางช่องไม่มีแผนในการปรับราคาโฆษณาขึ้นแต่อย่างใด แต่จะมุ่งเน้นพัฒนาคอนเทนต์ ลักษณะรายการให้ตรงกับลูกค้าต้องการมากกว่า จากปัจจุบันผลิตเองอยู่ 50% และจ้างผลิต 50% เท่าๆ กัน
ล่าสุดในช่วงไตรมาสแรกนี้ทางช่องได้จัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อต่อยอดในการสร้างแบรนด์คอนเทนต์ให้เป็นที่รู้จักและจดจำมากยิ่งขึ้น รวมถึงขยายฐานผู้ชมให้มากขึ้น ภายใต้แคมเปญ “เปิดช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ได้โตโยต้าอัลติส” ให้ผู้ชมได้ร่วมสนุกง่ายๆ ลุ้นโตโยต้าอัลติสเดือนละ 1 คัน เริ่มตั้งแต่ 16 ก.พ.-31 พ.ค.นี้ รายละเอียดติดตามได้ทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25
สำหรับแคมเปญนี้ถือเป็นแคมเปญใหญ่สุดในไตรมาสแรก และเป็นแผนหนึ่งในการสร้างแบรนด์ จากทั้งปีนี้ที่ยังมีงบ 100 ล้านบาทสำหรับโฆษณาช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 จะทำรายได้ถึง 700 ล้านบาท และคุ้มทุนตามแผนใน 3 ปี พร้อมติดท็อป 5 ของช่องทีวีดิจิตอลด้วยกัน จากปัจจุบันมีเรตติ้งอยู่ในอันดับ 9-10
นางสายทิพย์กล่าวต่อว่า ในส่วนของสื่อวิทยุ ซึ่งมีอยู่ 3 คลื่น คือ ชิลล์ เอฟเอ็ม 89, อีเอฟเอ็ม 94 และกรีนเวฟ 106.5 ปีนี้ยังคงดำเนินแผนการตลาดไปตามปกติ ซึ่งทั้ง 3 คลื่นมีแบรนด์ที่ชัดเจน ทั้งปีน่าจะทำรายได้อยู่ที่ 700 ล้านบาทเช่นกัน ขณะที่ภาพรวมตลาดวิทยุถือว่าค่อนข้างนิ่ง หรือน่าจะมีรายได้ที่ 3,600 ล้านบาทเท่าปีก่อน
นางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทยังคงใช้งบลงทุนรวมที่ 1,200 ล้านบาทตามแผนเดิมที่วางไว้ในการพัฒนาช่อง จีเอ็มเอ็ม 25 อย่างต่อเนื่องตลอดปี ทั้งการเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ ซึ่งล่าสุดในเดือน ก.พ.นี้จะมีรายการใหม่ๆ ป้อนเข้ามาเพิ่มอีก เช่น เกมวัดดวง, โป๊ะป๊ะนัตโตะ เป็นต้น ส่งผลให้มีรายการใหม่เข้ามาแล้วกว่า 60% ซึ่งจะยังคงทยอยปรับเข้ามาอีกตลอดทั้งปี
ขณะที่ปัจจุบันรายการคลับฟรายเดย์ เดอะซีรีส์ ถือเป็นรายการที่มีเรตติ้งสูงสุด และโฆษณาเข้าเต็มในเวลานี้ หรือเฉลี่ยเรตโฆษณาอยู่ที่ 1.5 แสนบาทต่อนาที ซึ่งในปีนี้ทางช่องไม่มีแผนในการปรับราคาโฆษณาขึ้นแต่อย่างใด แต่จะมุ่งเน้นพัฒนาคอนเทนต์ ลักษณะรายการให้ตรงกับลูกค้าต้องการมากกว่า จากปัจจุบันผลิตเองอยู่ 50% และจ้างผลิต 50% เท่าๆ กัน
ล่าสุดในช่วงไตรมาสแรกนี้ทางช่องได้จัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อต่อยอดในการสร้างแบรนด์คอนเทนต์ให้เป็นที่รู้จักและจดจำมากยิ่งขึ้น รวมถึงขยายฐานผู้ชมให้มากขึ้น ภายใต้แคมเปญ “เปิดช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ได้โตโยต้าอัลติส” ให้ผู้ชมได้ร่วมสนุกง่ายๆ ลุ้นโตโยต้าอัลติสเดือนละ 1 คัน เริ่มตั้งแต่ 16 ก.พ.-31 พ.ค.นี้ รายละเอียดติดตามได้ทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25
สำหรับแคมเปญนี้ถือเป็นแคมเปญใหญ่สุดในไตรมาสแรก และเป็นแผนหนึ่งในการสร้างแบรนด์ จากทั้งปีนี้ที่ยังมีงบ 100 ล้านบาทสำหรับโฆษณาช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 จะทำรายได้ถึง 700 ล้านบาท และคุ้มทุนตามแผนใน 3 ปี พร้อมติดท็อป 5 ของช่องทีวีดิจิตอลด้วยกัน จากปัจจุบันมีเรตติ้งอยู่ในอันดับ 9-10
นางสายทิพย์กล่าวต่อว่า ในส่วนของสื่อวิทยุ ซึ่งมีอยู่ 3 คลื่น คือ ชิลล์ เอฟเอ็ม 89, อีเอฟเอ็ม 94 และกรีนเวฟ 106.5 ปีนี้ยังคงดำเนินแผนการตลาดไปตามปกติ ซึ่งทั้ง 3 คลื่นมีแบรนด์ที่ชัดเจน ทั้งปีน่าจะทำรายได้อยู่ที่ 700 ล้านบาทเช่นกัน ขณะที่ภาพรวมตลาดวิทยุถือว่าค่อนข้างนิ่ง หรือน่าจะมีรายได้ที่ 3,600 ล้านบาทเท่าปีก่อน
