ASTVผู้จัดการรายวัน - “เคทีออพติค” ดึงญี่ปุ่นเปิดร้านแว่นตาซิงเกิลแบรนด์ “เวคอัพ” รุกตลาดในไทย พร้อมปรับแผนรุกเออีซีเร่งขยายสาขาในจังหวัดชายแดน แทนที่จะไปร่วมทุนกับผู้ประกอบการท้องถิ่นในเออีซี ปีนี้ทุ่มงบตลาด 30 ล้านบาท พร้อมขยายอีก 10 สาขา มั่นใจปีนี้เติบโต 5%
นายชัชวาลย์ วณิชไพสิฐ ผู้อำนวยการด้านการบริหาร บริษัท เคที ออพติค จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านแว่นตาเคทีออพติค กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนรุกตลาดแว่นตาเพื่อรองรับการแข่งขัน และการเติบโตอย่างมากที่จะเป็นผลมาจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ภายในปี 2558 นี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อตลาดแว่นตามีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น
ล่าสุดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจ บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับทางญี่ปุ่นเพื่อตั้งบริษัท ดีเอช พลัส จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจร้านแว่นตาแบบแบรนด์เดียวหรือซิงเกิลแบรนด์รีเทล จำหน่ายแว่นตาแบรนด์ เวคอัพ ( Wake Up) ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ เช่น ในจีนมีมากกว่า 350 สาขา ในญี่ปุ่นมี 4-5 สาขา และไทยกับมาเลเซียอยู่ระหว่างการเริ่มต้น ซึ่งคาดว่าจะเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าสเปลซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ในเดือนมิถุนายนปีนี้ และอีกสาขาอยู่ระหว่างการเจรจาพื้นที่ ลงทนุเฉลี่ย 3 ล้านบาทต่อสาขา
ร้านเวคอัพจะขายเฉพาะแว่นตาและอุปกรณ์ของแบรนด์เวคอัพอย่างเดียว ชูเรื่องราคาที่ 2,700 บาท 3,700 บาท และ 4,700 บาท เป็นราคารวมกรอบพร้อมเลนส์ ซึ่งเป็นรายเดียวที่ทำแบบนี้ในไทยที่มีแบรนด์เดียวในร้าน เพราะส่วนใหญ่จะเป็นร้านแบบมัลติแบรนด์มีหลายแบรนด์ในร้านเดียวกัน
ขณะที่แผนร้านเคทีออพติคนั้นปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 10 สาขา เน้นกรุงเทพฯ 5 สาขา และต่างจังหวัด 5 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 3 ล้านบาทต่อสาขา คือที่ เดอะพาซิโอพาร์คกาญจนาภิเษกเดือนมีนาคม เจมาร์เก็ตแอทรามอินทราเดือนสิงหาคม เมโทรอีสทาวน์ไตรมาส 3 แฟชั่นไอส์แลนด์เดือนพฤศจิกายน และโชว์ดีซีช่วงปลายปี ขณะที่ปีที่แล้วเปิด 10 สาขา กรุงเทพฯ 5 สาขา และต่างจังหวัด 5 สาขา รวมปัจจุบันมีสาขา 188 สาขา รวมถึงการใช้งบประมาณด้านการตลาดปีนี้ 30 ล้านบาทเพื่อรุกตลาดเต็มที่ ล่าสุดคือ จัดแคมเปญ เคทีออพติค บิ๊ก กิฟต์ คูณสอง ถึง 28 กุมภาพันธ์นี้ ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เมื่อซื้อสินค้าครบทุก 5,000 บาทได้รับสิทธิ์ร่วมชิงรางวัลลุ้นรถจักรยานยนต์เวสป้า 5 รางวัล รถจักรยานยนต์ซูมเมอร์เอ็กซ์ 4 รางวัลโทรศัพท์ ไอโฟน6 รุ่น 16จี 10 รางวัล เป็นต้น ซึ่งคาดว่าแคมเปญนี้จะช่วยผลักดันยอดขายเติบโต 20% ในช่วงดังกล่าว
การเปิดเออีซีนั้น เคทีออพติคก็เตรียมพร้อมขยายฐานลูกค้าในกลุ่มเออีซีมากขึ้น โดยการเพิ่มสาขาในต่างจังหวัดที่ติดชายแดน เช่น อุดรธานี หนองคาย เป็นต้น ซึ่งจะเริ่มในปี 2559 เป็นการปรับแผนจากเดิมที่อาจจะมีการร่วมทุนในธุรกิจตลาดแว่นตากับผู้ประกอบการแว่นตาในกลุ่มเออีซีด้วยกัน แต่เมื่อศึกษาตลาดอย่างดีแล้วพบว่าจังหวัดที่อยู่แถบชายแดนของไทยและเพื่อนบ้าน มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากนโยบายเศรษฐกิจและการค้าเสรี ทำให้ประชาชนในประเทศและเพื่อนบ้านส่วนใหญ่มาซื้อสินค้าในไทยมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันตลาดรวมแว่นตาในไทยมีมูลค่ามากกว่า 6,500 ล้านบาท มีการเติบโตประมาณ 5% ต่อปี ที่ผ่านมาส่วนใหญ่แข่งขันกันด้านราคา โดยผู้นำตลาดคือ ท็อปเจริญ กับบิวตี้ฟูล ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันมีแชร์รวมกันมากกว่า 35% อันดับที่สามคือ เคทีออพติค ส่วนแบ่ง 15% ที่เหลือเป็นแบรนด์อื่นๆ ทั้งที่เป็นแบบเชนรายย่อยกับรายเดียว
สำหรับปีนี้เคทีออพติควางเป้าหมายที่จะมีรายได้เติบโต 5% จากปีที่แล้วที่มีรายได้ 800 ล้านบาทเติบโต 5% เช่นกัน ซึ่งคาดว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดรวมที่จะเติบโต 5% ในปีนี้ ขณะที่เทรนด์แว่นตานั้นจะเน้นความเป็นแฟชั่นหรือมีอีโมชันนัลมากขึ้นควบคู่ไปกับฟังชังนัล จากเดิมที่เน้นฟังชันนัลอย่างเดียว