“ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่” สนใจฟื้นกิจการ “วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” ของนายนพพร ศุภพิพัฒน์ อดีตผู้บริหารที่หนีคดีอยู่ คาดได้ข้อสรุปดิวดิลิเจนซ์ในอีก 2-3 เดือนนี้ ขณะเดียวกันเดินหน้าลุยโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่น ขนาด 30-40 เมกะวัตต์ ชัดเจน ก.พ.นี้
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (TSE) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ และขั้นตอนตรวจสอบสถานะการเงิน (Due Diligence) บริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อฟื้นฟูกิจการให้วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯ เดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมต่อไปได้หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากคดีของนายนพพร ศุภพิพัฒน์ อดีตผู้บริหาร คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2-3 เดือนข้างหน้านี้
ทั้งนี้ TSE มีความสนใจในธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทอื่นทั้งโรงไฟฟ้าพลังลม และขยะ นอกเหนือจากการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม 99 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มจำนวน 10 โรง กำลังผลิตรวม 85 เมกะวัตต์ และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟทอป) อีก 14 แห่ง รวม 14 เมกะวัตต์
“ขณะนี้ทางวินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯ ต้องการหาพาร์ตเนอร์ใหม่เพื่อให้โครงการต่างๆ ในมือเดินหน้าไปได้ รวมทั้งแผนการนำบริษัทฯ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วย โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาทำดิวดิลิเจนซ์ ซึ่ง TSE ก็ไม่ได้ปิดกั้นที่จะดำเนินธุรกิจเฉพาะโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ แต่สนใจลงทุนพลังงานทดแทนประเภทอื่นๆ ด้วย ทั้งลม ขยะ ไบโอแก๊ส ซึ่งขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกรายละเอียด แต่ถ้าผลการทำดิวดิลิเจนซ์ดีก็จะเสนอบอร์ดฯ เพื่ออนุมัติ”
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า เนื่องจากวินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯ ได้รับใบอนุญาตพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังลมประมาณ 100-200 เมกะวัตต์ ทำให้ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจ ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็มีพาร์ตเนอร์หลายรายที่พร้อมจะเข้ามาร่วมทุนโครงการนี้ด้วย
ส่วนความคืบหน้าการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังผลิต 30-40 เมกะวัตต์นั้น คาดว่าในเดือน ก.พ.นี้จะได้ข้อสรุป โดยโครงการดังกล่าวบริษัทฯ จะถือหุ้นใหญ่เกิน 90% ใช้เงินลงทุนรวม 2,700-4,000 ล้านบาท
