เดินหน้าสู่ผู้นำนวัตกรรมอาหารพร้อมรับประทาน หลังทำยอดขายแตะระดับ 1.2 หมื่นล้านบาทในปี 57 ชูกลยุทธ์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ปีละ 200-300 รายการ หวังกระตุ้นยอดขายโตต่อเนื่องปีละ 15% พุ่งขึ้นเป็น 1.4 หมื่นล้านบาทในปี 58 พร้อมเผยแผนลงทุนปี 58-60 ทุ่มงบ 6,450 ล้านบาท เพิ่มโรงงานอาหารพร้อมรับประทานแช่แข็งและแช่เย็น 4 แห่ง และเบเกอรีอบสด 5 แห่ง รวมเป็น 19 แห่งทั่วประเทศ
นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด ผู้ผลิตอาหารพร้อมรับประทานแช่แข็งและแช่เย็น และเบเกอรีอบสดในกลุ่มบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดอาหารพร้อมรับประทานมีมูลค่ารวมประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทฯ คาดว่าในปี 2557 จะมียอดขายรวมเติบโตขึ้นประมาณ 15% หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นอาหารพร้อมรับประทานแช่แข็งและแช่เย็น 7.5 พันล้านบาท และเบเกอรีอบสด 4.5 พันล้านบาท โดยเน้นช่องทางจำหน่ายผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นหลักประมาณ 80-90% ขณะที่มีการส่งออกประมาณ 700 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประเทศยุโรป ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอื่นๆ
สำหรับปี 2558 คาดว่าจะยังคงมียอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 15% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 หมื่นล้านบาท โดยมีกลยุทธ์มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ใน 3 ส่วน ได้แก่ Factory Automation เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน Biotechnology เพื่อการคิดค้นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น และ Food Waste Reduction เพื่อเป็นการจัดการความสูญเปล่าที่เกิดจากอาหารตลอดกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 10% โดยจะขยายตลาดในปลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานผลิตอาหารพร้อมรับประทานแช่แข็งและแช่เย็น 4 แห่งที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และมีโรงงานผลิตเบเกอรีอีก 5 แห่ง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง 2 แห่ง และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จ.เชียงใหม่ และ จ.ขอนแก่น ล่าสุดยังได้ก่อสร้างศูนย์นวัตกรรมซีพีแรมและโรงงานบนพื้นที่ 44 ไร่ ณ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ด้วยเงินลงทุนกว่า 1.6 พันล้านบาท นับเป็นโรงงานแห่งใหม่ล่าสุดและเป็นศูนย์นวัตกรรมอาหารเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นโรงงานผลิตเพื่อรับรองการขยายตลาดสู่ภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทย
“การลงทุนศูนย์นวัตกรรมดังกล่าวส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 40% แบ่งเป็นอาหารพร้อมรับประทานแช่แข็งและแช่เย็น 6 แสนถาดต่อวัน รวมถึงอาหารว่างประเภทติ่มซำ ประมาณ 2 ล้านชิ้นต่อวัน โดยแต่ละปีจะมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ปีละ 200-300 รายการ”
นายวิเศษกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า บริษัทฯ มีแผนการลงทุน 3 ปีในช่วง พ.ศ. 2558-2560 โดยจะเพิ่มโรงงานอีก 9 แห่ง แบ่งเป็น 1. โรงงานผลิตเบเกอรี จ.ขอนแก่น คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 2/58 2. โรงงานผลิตเบเกอรี นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง 3 คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 3/58 3. โรงงานผลิตอาหารพร้อมรับประทาน จ.นครราชสีมา คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 4/58 4. โรงงานผลิตอาหารพร้อมรับประทาน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 4/58
5. โรงงานผลิตเบเกอรี นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง 4 คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 1/59 6. โรงงานผลิตเบเกอรี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 4/59 7. โรงงานผลิตอาหารพร้อมรับประทาน จ.สุราษฎร์ธานี คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 4/59 8. โรงงานผลิตเบเกอรี จ.ลำพูน คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 4/60 9. โรงงานผลิตอาหารพร้อมรับประทาน จ.ลำพูน คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 4/60
“บริษัทฯ เน้นขยายการลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในขนาดที่พอเหมาะในแต่ละภูมิภาค โดยกำหนดงบลงทุนโรงงานผลิตอาหารพร้อมรับประทานแห่งละ 800 ล้านบาท ขณะที่งบลงทุนโรงงานผลิตเบเกอรีแห่งละ 650 ล้านบาท รวมงบลงทุน 3 ปีคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 6,450 ล้านบาท” นายวิเศษกล่าวในที่สุด