เกาหลีฟีเวอร์ “วิคเก็ต สโนว์” ขนมหวานเกล็ดหิมะพิงสุ ขอลุยไทย เชื่อถูกปากคนไทย เปิดสาขาแรกที่ I’m park จับกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ชูไทยต้นแบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เตรียมขยายต่อในจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ หวังปีหน้าขยายสาขาใน ตปท.รวม 50 สาขา ในเกาหลีเป็น 150 สาขา รายได้ทะลุ 1,200 ล้านบาท
นายมิน บยอง ดน ประะธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในกลุ่มบริษัท บีเค โคเรีย จำกัด เจ้าของแบรนด์ Wicked Snow (วิคเก็ต สโนว์) จากประเทศเกาหลี เปิดเผยว่า เดิมบริษัทเป็นผู้ผลิตเครื่องมือในการทำพิงสุ (Bingnsu) ซึ่งเป็นขนมหวานเกล็ดหิมะที่นิยมมากในเกาหลีมากกว่า 10 ปี และในปีที่ผ่านมาได้สร้างแบรนด์ Wicked Snow ขึ้นมาเอง ปัจจุบันมีอยู่ 70 สาขาทั่วประเทศ และติดอยู่ในระดับท็อป 3 ซึ่งอันดับหนึ่งคือแบรนด์ Seobing
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเปิดตลาดในต่างประเทศด้วยทั้งในอเมริกาและในเอเชีย โดยในเอเชียนั้น ล่าสุดได้จับมือกับทางบริษัท ไวท์ แคสเซิล จำกัด เข้ามาซื้อแฟรนไชส์ เพื่อเปิดร้าน Wicked Snow สาขาแรกที่โครงการ I’m park ซอยจุฬา 22 เมื่อช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทพร้อมใช้สาขาดังกล่าวเป็นสาขาต้นแบบของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมีการขยายตลาดไปในสิงคโปร์ จีน และมาเลเซีย ในปีหน้า ส่วนในอเมริกานั้นใช้ชื่อแบรนด์ Magic Snow เริ่มเปิดให้บริการในปีหน้าเช่นกันที่รัฐเทกซัส และลอสแองเจลิส
“แผนการขยายสาขาในต่างประเทศ จะเป็นในลักษณะแฟรนไชส์ทั้งหมด โดยปีหน้าจะทำได้รวมกัน 50 สาขา ซึ่งจีนและโซนทางใต้ของจีนอย่างฮ่องกงจะเป็นประเทศที่มีการขยายสาขามากที่สุด ส่วนสิงคโปร์ และมาเลเซีย จะเริ่มที่ 1 สาขาก่อน ขณะที่ในไทยตั้งเป้าปีหน้า 3-4 สาขา ทั้งจากไวท์ แคสเซิล และคู่ค้ารายอื่นที่สนใจ ส่วนในเกาหลีนั้นปีหน้าจะขยายรวมกันได้ครบ 150 สาขา เชื่อว่าจะทำรายได้ให้บริษัทถึง 1,200 ล้านบาทในสิ้นปี 2558 ได้ ส่วนรายได้จากต่างประเทศยังไม่ได้คำนวณไว้”
สำหรับการรุกตลาดในไทยนั้น เนื่องจากเชื่อมั่นว่าพิงสุภายใต้แบรนด์วิคเก็ต สโนว์ จะได้รับความสนใจจากคนไทย เพราะเป็นขนมหวานที่เชื่อว่าจะถูกปากคนไทย เหมาะสำหรับเมืองร้อน อีกทั้งตลาดขนมหวานในไทยมีโอกาสเติบโตสูงมาก โดยเฉพาะพิงสุที่ได้รับความนิยมสูง จากปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นเมนูหนึ่งในร้านอาหารเกาหลีในไทย และการเปิดจำหน่ายเฉพาะพิงสุยังมีไม่กี่ราย
ด้านนางนพมาศ ผาณิตพิเชฐวงศ์ กรรมการ บริษัท ไวท์ แคสเซิล จำกัด ผู้ซื้อไลเซนส์ร้านวิคเก็ต สโนว์ กล่าวต่อว่า การลงทุนต่อในสาขาแรกนี้ใช้งบรวมกว่า 10 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าแฟรนไชส์ 5 ล้านบาท และค่าตกแต่งร้านอีก 5 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนใน 3-5 ปี โดยตามแผนธุรกิจปีหน้าเตรียมขยายเพิ่้มอีก 1-2 สาขา ในเขตกรุงเทพฯ จับกลุ่มเด็กนักเรียน และนักศึกษาเป็นหลัก ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 120-240 บาทขึ้นไป ประกอบด้วย 1. พิงสุ 2. โทสติ และ 3. เครื่องดื่ม