xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็มโพเรียม” รีเทิร์น เพิ่มพื้นที่รับแฟชั่นอินเตอร์แบรนด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ดิ เอ็มโพเรียม” พร้อมรบแล้วหลังปิดรีโนเวตใหญ่กว่า 7 เดือนด้วยงบ 3,000 ล้านบาท พร้อมพื้นที่เพิ่ม 20% รองรับแฟชั่นอินเตอร์แบรนด์เพียบ

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริหารสินค้า A เดอะมอลล์กรุ๊ป เปิดเผยว่า วานนี้ (18 ธ.ค.57) บริษัทฯ ได้เปิดตัวศูนย์การค้า “ดิ เอ็มโพเรียม” อย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากที่ได้ทำการทยอยปิดบางส่วนเพื่อรีโนเวตตลอดช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ด้วยงบประมาณรวม 3,000 ล้านบาท เสร็จแล้วกว่า 95% ซึ่งเหลือเพียงบางส่วน เช่น โรงภาพยนตร์ คาดว่าจะสามารถเปิดบริการได้ครบสมบูรณ์ภายในเดือนมี.ค.58 พร้อมกับโครงการ “ดิ เอ็มควอเธียร์”

ทั้งนี้ พื้นที่ส่วนของห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากเดิมที่มีประมาณ 20,000 ตารางเมตร ที่มีลูกห้องเก่าคืนพื้นที่มาเพื่อรองรับแบรนด์แฟชั่นกับดีไซเนอร์แบรนด์ใหม่ๆ ที่เข้ามาจำหน่ายในห้าง รวมทั้งได้ทำการปรับชั้นสินค้าใหม่ด้วยคือ เดิมชั้น B1 แผนกรองเท้าและกระเป๋า เปลี่ยนเป็นชั้น BL สินค้าความงาม คอสเมติกส์, ชั้น GF เดิมเป็นบิวตี้ฮอลล์ ปรับเป็น ชั้น GL แผนกแฟชั่นเสื้อผ้า โดยในส่วนของแผนกเสื้อผ้าสตรี ใช้ชื่อว่า “ดิ แอท เทอเย” ที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำมากกว่า 70 แบรนด์ และมี 40 แบรนด์ที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ห้าง “ดิ เอ็มโพเรียม” เท่านั้น

ชั้น 1F เดิมแผนกแฟชั่นสตรี ปรับเป็น ชั้น ML แผนกบิวตี้ฮอลล์ นาฬิกา, ชั้น 2F เดิมเป็นแฟชั่นสตรี ปรับเป็นชั้น 1L แผนกรองเท้า และกระเป๋า, ชั้น 3F แผนกเมนอินเทรนด์ สปอร์ตมอลล์ เหมือนเดิมแต่ปรับเป็นชั้น 2L, ชั้น 4F เดิมเป็นบีเทรนด์ พาวเวอร์มอลล์ เหมือนเดิมแต่ปรับเป็น ชั้น 3L และชั้น 5F เดิมเป็นเอ็กซอติก ไทย ลีฟวิ่ง และกูร์เมต์มาร์เก็ต เหมือนเดิมแต่ปรับเป็นชั้น 4L

บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายว่าหลังจากเปิดบริการ “ดิ เอ็มโพเรียม” โฉมใหม่แล้วจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 30% และจะมีปริมาณลูกค้าที่เดินเข้าห้างเพิ่มอีก 50% จากก่อนหน้าที่จะมีการปรับปรุง โดยสัดส่วนลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25-30% คนไทย 70-75% โดยคาดว่าสัดส่วนคงไม่เปลี่ยนมากนัก แต่คาดว่าความถี่ของลูกค้าเข้าห้างจะเพิ่มมากขึ้นจากเดิม 2 ครั้งต่อเดือนเป็น 4 ครั้งต่อเดือน และมียอดการจับจ่ายต่อบิลเพิ่มประมาณ 20% จากเดิมเฉลี่ย 2,000 กว่าบาทต่อคนต่อครั้ง

สำหรับยอดรายได้รวมของห้าง “ดิ เอ็มโพเรียม” มีประมาณ 2,400 ล้านบาทต่อปี แยกเป็น แผนกผู้ชาย 500 ล้านบาท, แผนกคอสเมติกส์ 700 ล้านบาท, แผนกลีฟวิ่งและแฟชั่น 350 ล้านบาท, แผนกแฮนดี้คราฟต์ 100 ล้านบาท และแผนกแฟชั่นหญิง 800 ล้านบาท




กำลังโหลดความคิดเห็น