“เครือซีพี” คว้าสิทธิ์ “โปเกมอน” แต่ขาดหัวใจหลัก “การ์ดเกม”

“ทรูไอคอนเท้นท์” ในเครือซีพีคว้าลิขสิทธิ์มาสเตอร์ไลเซนส์คาแรกเตอร์ “โปเกมอน” ในไทย เผย 5 สิทธิ์แต่ขาดลิขสิทธิ์หลักคือ “การ์ดเกม” ปีหน้าทุ่ม 100 ล้านบาท หวังโกยรายได้ 500 ล้านบาท ผนึกเครือข่ายซีพีทำตลาดเชิงรุก



นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู ไอคอนเทนท์ จำกัด ในเครือซีพี เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งจาก “เดอะโปเกมอนคอมปะนี” จากญี่ปุ่น เพื่อให้เป็นมาสเตอร์ไลเซนส์ผู้ได้รับอนุญาตใช้ลิขสิทธิ์บริหารจัดการสำหรับคาแรกเตอร์โปเกมอนเพียงรายเดียวในไทย เป็นระยะเวลา 2 ปี และเป็นประเทศที่สองต่อจากเกาหลีใต้ที่ได้รับแต่งตั้งในฐานะมาสเตอร์ไลเซนส์ จากปกติทั่วไปจะมีหลายรายในแต่ละประเทศที่ได้รับสิทธิ์ในรูปแบบต่างๆ

ทั้งนี้ ลิขสิทธิ์ที่ได้แทบจะเรียกได้ว่าออลไรต์คือ 1. ลิขสิทธิ์ออนแอร์ ฟรีทีวี และเพย์ทีวี 2. ลิขสิทธิ์ช่องทางอินเทอร์เน็ตและโมบายล์ 3. ลิขสิทธิ์วีซีดี ดีวีดี และบลูเรย์ 4. ลิขสิทธิ์สิ่งพิมพ์ และ 5. ลิขสิทธิ์เมอร์ชันไดซ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม ลิขสิทธิ์ที่ทรูไอคอนเทนต์ยังไม่ได้ในครั้งนี้คือ ด้านธุรกิจการ์ดเกม

บริษัทฯ วางแผนใช้งบลงทุน 100 ล้านบาทในปีหน้า (2558) เพื่อรุกทำตลาดในไทยผ่านกิจกรรมครบทุกรูปแบบ รวมทั้งแผนการสร้างผลิตภัณฑ์อันหลากหลายของกลุ่มทรูและเครือซีพี เช่น ทรูวิชั่นส์ ทรูโฟร์ยู ทรูออนไลน์ ทรูมูฟเอช และทรูมิวสิค โดยจะผนึกธุรกิจในเครือซีพีทำตลาดด้วยกันในหลากหลายวิธีการ เช่น จานดาวเทียมลายโปเกมอน นมซีพีเมจิลายโปเกมอน เป็นต้น

ล่าสุดเตรียมงานใหญ่ เช่น งานวันเด็ก 9-11 มกราคม 2558 ที่สยามพารากอน และตั้งเป้ายอดรายได้ปีหน้าประมาณ 500 ล้านบาท สัดส่วนแบ่งเป็น สินค้าเมอร์ชันไดส์ 40% ด้านอีเวนต์ สปอนเซอร์ชิป 60% และมุ่งหวังที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดคาแรกเตอร์ในไทยให้ได้ จากมูลค่าตลาดคาแรกเตอร์ลิขสิทธิ์ในไทยที่มีมากกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาแรกเตอร์ใหญ่ในไทย เช่น มิกกี้เมาส์, ซานริโอ, โดราเอมอน เป็นต้น

นายสึเนะคาชิ อิชิฮาระ ประธานกรรมการและซีอีโอ บริษัท เดอะ โปเกมอน คอมปานี ญี่ปุ่น กล่าวว่า บริษัทฯ ยังไม่ได้ให้ลิขสิทธิ์ด้านการ์ดเกมกับทรูไอคอนเท้นท์ เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เวลาในการทำตลาด แต่อนาคตคิดว่าจะขยายตลาดในส่วนนี้ในไทยแน่นอน อย่างไรก็ตาม มั่นใจกับการเป็นพันธมิตรกับทรูไอคอนเท้นท์ที่จะสร้างธุรกิจโปเกมอนในไทยให้ประสบความสำเร็จได้ เพราะทรูไอคอนเท้นท์มีจุดแข็งและมีศักยภาพพร้อมอย่างมากทั้งแพลตฟอร์ม การสื่อสารครบวงจร ธุรกิจโทรทัศน์ และดิจิตอลคอนเทนต์

ทั้งนี้ “โปเกมอน” ได้รับความสำเร็จอย่างมากตลอดเวลา 18 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดสิ้นสุดเดือนกันยายน 2557 มูลค่าตลาดของแบรนด์ “โปเกมอน” ในญี่ปุ่นเท่ากับ 1.9 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 57,000 ล้านบาท มีมูลค่าตลาดรวมทั่วโลกประมาณ 4.2 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 690,000 ล้านบาท มียอดขายเกมประมาณ 13 ล้านตลับ ยอดขายการ์ดเกมประมาณ 212,500 ล้านใบจาก 74 ประเทศ มีสินค้าเมอร์ชันไดส์มากกว่า 4,500 รายการในญี่ปุ่น จับกลุ่มหลักอายุ 6-12 ปี รองมาคือ กลุ่มวัยทีน พรีทีน