“ฮาร์ทบีท” ผู้นำตลาดลูกอมสื่อรักรูปหัวใจ เดินหน้าซื้อไลเซนส์ตั้งโรงงานผลิตในแอฟริกาใต้เป็นแห่งที่ 2 ในปี 58 พร้อมขยายตลาดอาเซียน ทั้งอินโดฯ พม่า และลาว ระบุเทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันมานิยมเคี้ยวลูกอมเพิ่มขึ้น ส่งผลตลาดสินค้ากลุ่มกัมมีโตถึง 20% เผยไตรมาสสุดท้ายอัดงบ 50 ล้านจัดแคมเปญการตลาดกับร้านค้าและผู้บริโภคโดยตรง หวังรักษาแชมป์ตลาดด้วยส่วนแบ่ง 12% จากมูลค่า 8 พันล้านบาท
นางสาวจิตราภา อังคเศกวิไล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เยเนอรัลแคนดี้ จำกัด ผู้ผลิตและผู้นำตลาดลูกอมและเม็ดอมสื่อรักรูปหัวใจแบรนด์ “ฮาร์ทบีท” เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดลูกอมในปี 2557 มีมูลค่ารวมกว่า 8 พันล้านบาท แบ่งเป็น Hard Candy มีการเติบโตเล็กน้อยประมาณ 5-10% และ Soft Candy เติบโต 15-20% โดย “ฮาร์ทบีท” ถือเป็นผู้นำกลุ่มตลาด Hard Candy รสผลไม้ มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 12% เติบโตเท่าตลาดคือ 5-10% ส่วน Soft Candy หรือสินค้ากลุ่มกัมมีเติบโตขึ้น 20%
ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคลูกอมทั้งในประเทศไทย รวมถึงกลุ่มประเทศยุโรปและประเทศที่พัฒนาแล้ว เริ่มเปลี่ยนแปลงไปโดยมีการบริโภคลูกอมน้อย แต่หันมาเคี้ยวลูกอมมากขึ้น บริษัทฯ จึงเน้นทำตลาดสินค้ากลุ่มกัมมีเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า จึงส่งผลให้สินค้า “ฮาร์ทบีทจัมโบ้สอดไส้” มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ภาพรวมของตลาดลูกอมในไทยเติบโตน้อย แต่มีการแข่งขันสูงและมีผู้เล่นในตลาดเพิ่มขึ้น ทั้งยังมีแบรนด์ต่างประเทศที่มาทำตลาดในไทยเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะติดแบรนด์เป็นหลักและให้ความสนใจกับรสชาติใหม่มากขึ้น”
ปัจจุบันบริษัทฯ มีรายได้ในประเทศ 600 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 40% และส่งออก 1 พันล้านบาท คิดเป็น 60% โดยมีการส่งออกสินค้าไป 40 กว่าประเทศ ตลาดหลักคือกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเป็นสินค้าลูกอม “ฮาร์ทบีท” และสินค้ากลุ่มกัมมีภายใต้แบรนด์ “Sour Punk” และ “Frit-C” ส่วนในประเทศอินเดียได้มีการซื้อไลเซนส์ลูกอม “ฮาร์ทบีท” ไปผลิตประมาณ 2 ปีแล้ว นอกจากนี้ ลูกอม “ฮาร์ทบีท” ยังเป็นลูกอมนำเข้าอันดับ 1 ในตลาดประเทศแอฟริกาใต้ โดยคาดว่าในปี 2558 จะเริ่มซื้อไลเซนส์ไปผลิตในประเทศแอฟริกาใต้เป็นประเทศที่สอง
“สำหรับปี 2558 บริษัทฯ มีแผนออกสินค้าใหม่ เน้นไปทาง Functional Benefits ด้าน Health and Beauty และขยายไลน์สินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มกัมมีมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนขยายตลาดต่างประเทศที่ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก คือกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย พม่า และลาว”
นางสาวจิตราภากล่าวอีกว่า บริษัทฯ ใช้งบประมาณทำตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 ประมาณ 50 ล้านบาทในการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดขายทั้ง Trade Promotion กับช่องทางร้านค้าด้วยแคมเปญ “ฮาร์ทบีท ขอ 3” โดยร้านค้าที่สะสมคูปองครบ 3 ข้อความ คือ ฮาร์ทบีท, สื่อรัก และ รูปหัวใจ รับโทรศัพท์มือถือ iPhone 6 จำนวน 100 รางวัล
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมกับลูกค้าโดยตรงคือ “ฮาร์ทบีท กรี๊ดดงบัง สนั่น Japan” เพียงลูกค้าส่งซองฮาร์ทบีทขนาดใดก็ได้ ลุ้นบัตรชมคอนเสิร์ต “ดงบังชินกิ” แถวหน้าสุด พร้อมแพกเกจทัวร์ ที่พัก ตั๋วไป-กลับกรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น จาก “แอร์เอเชียเอ็กซ์” สำหรับ 2 ท่าน จำนวน 3 รางวัล และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ทั้ง iPad Mini และกล้องฟรุ้งฟริ้ง CANON ZR850
อนึ่ง บริษัท เยเนอรัลแคนดี้ จำกัด ได้มีการปรับโครงสร้างผู้บริหารรุ่นใหม่ซึ่งถือเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของ “นายไพศาล อังคเศกวิไล” ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการสร้างสรรค์นวัตกรรมขนมมาตลอดเวลากว่า 30 ปี โดยทีมผู้บริหารใหม่เป็นบุตรสาว 3 คนประกอบด้วย นางสาวจิตราภา อังคเศกวิไล ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ (รับผิดชอบด้านบริหารและโรงงาน) และนางสาวจิราภรณ์ อังคเศกวิไล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ (รับผิดชอบทางด้านการตลาด สินค้านำเข้า ประชาสัมพันธ์) รวมถึงนางสาวจินตวีร์ อังคเศกวิไล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส (รับผิดชอบทางด้านการตลาด)