“ซีพีเอ็น” จ่อผุดศูนย์การค้าใหม่อีก 20 โครงการในไทย ชี้ยังมีโอกาสในอีกหลายพื้นที่พร้อมรองรับเออีซี ตั้งทีมงานต่างประเทศเจาะการลงทุนต่างประเทศ ล่าสุดทุ่มอีก 50,000 ล้านบาท ผุดใหม่อีก 6 สาขา คาดครบ 31 สาขาในปี 2560
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีการตั้งทีมงานต่างประเทศขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อศึกษาและดำเนินธุรกิจในต่างประเทศที่บริษัทจะขยายการลงทุนเข้าไปและประสานงานกับทีมท้องถิ่นในต่างประเทศที่เข้าไปลงทุนด้วย โดยบริษัทฯ จะมุ่งเน้นตลาดเออีซีก่อนเป็นหลัก หลังจากที่มีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558 แล้ว เพราะจะเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่เอื้อต่อธุรกิจค้าปลีกมาก โดยขณะนี้ได้ลงทุนในประเทศมาเลเซียแล้วและกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดบริการได้ภายในปี 2560 โดยเป็นการลงทุนเองทั้งหมดของซีพีเอ็นประมาณ 6,000 ล้านบาท
“ขณะที่การลงทุนในไทยนั้นยังคงมีต่อเนื่อง ซึ่งในระยะยาวแล้วบริษัทฯ ประเมินว่ายังสามารถเปิดได้อีกไม่ต่ำกว่า 20 ศูนย์ในทำเลที่มีศักยภาพ แต่ยอมรับว่าบางพื้นที่ค้าปลีกก็แข่งขันสูงและมีหนาแน่น บางพื้นที่ก็มีโอกาสอีกมาก ซึ่งเราเองก็ดูทำเลทั่วประเทศ ตรงไหนมีศักยภาพเราก็ลงทุน ส่วนโครงการไหนที่สามารถพัฒนาและเพิ่มพื้นที่ขายได้เราก็ทำเพื่อสร้างการเติบโต เพราะบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี”
นายปรีชา กล่าวด้วยว่า ซีพีเอ็นตั้งงบลงทุนไว้เฉลี่ยปีละ 15,000-16,000 ล้านบาท และจะเปิดศูนย์ฯ ใหม่ 3 สาขาต่อปี ซึ่งขณะนี้มีศูนย์ฯ ของซีพีเอ็นในโมเดลต่างๆ เปิดบริการแล้วรวม 25 สาขา พื้นที่รวมประมาณ 5 ล้านตารางเมตร แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล 11 โครงการ ส่วนในต่างจังหวัด 14 โครงการ และอยู่ระหว่างการพัฒนาใหม่ 6 สาขา รวมกับการรีโนเวตครั้งใหญ่อีก 2 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท
โครงการดังกล่าวประกอบด้วย 1.เซ็นทรัลเวสต์เกต บางใหญ่ มูลค่า 14,000 ล้านบาท พื้นที่ 500,000 ตารางเมตร 2.เซ็นทรัลพลาซา ระยอง มูลค่า 4,000 ล้านบาท พื้นที่ 200,000 ตารางเมตร เปิดบริการเดือนพฤษภาคม 2558 3.เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสท์ วิลล์ ถนนหลวงประดิษฐ์มนูธรรม มูลค่า 6,000 ล้านบาท พื้นที่ 150,000 ตารางเมตร เปิดบริการเดือนตุลาคม 2558 4.เซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช มูลค่า 4,000 ล้านบาท พื้นที่ 120,000 ตารางเมตร เปิดบริการเดือนเมษายน 2559 5.เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา มูลค่า 9,300 ล้านบาท และ 6.เซ็นทรัลภูเก็ต มูลค่า 12,700 ล้านบาท พื้นที่ 300,000 ตารางเมตร เปิดบริการปี 2560
ส่วนอีก 2 โครงการที่เป็นการรีโนเวตใหญ่คือ 1.เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า งบประมาณ 2,300 ล้านบาท พื้นที่ 400,000 ตารางเมตร คาดว่าเดือนธันวาคม 2558 จะแล้วเสร็จ และ 2.เซ็นทรัลพลาซา บางนา งบประมาณ 1,200 ล้านบาท พื้นที่ 340,000 ตารางเมตร คาดแล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2559 ซึ่งจะทำให้ภายในปี 2560 จะมีทั้งหมด 31 สาขา รวมพื้นที่มากกว่า 7 ล้านตารางเมตร
ทางด้าน นายชาติ จิราธิวัฒน์ อดีตกรรมการผู้จัดการ “เซ็นทรัล เอมบาสซี” กล่าวว่า เซ็นทรัล เอมบาสซี เปิดบริการมาตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม หรือ 5 เดือนกว่าแล้ว พบว่าได้รับการตอบรับดีในระดับหนึ่ง ร้านค้าสามารถจำหน่ายสินค้าได้ดี แต่ยอมรับว่าตัวเลขคนใช้บริการยังต่ำกว่าที่ประมาณการไว้คือ 20,000-25,000 คนต่อวัน จากที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 40,000-50,000 คนต่อวัน โดยมีสาเหตุมาจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังเข้ามาเมืองไทยไม่เต็มที่ช่วงเปิดใหม่ โดยที่เราตั้งเป้าหมายสัดส่วนต่างชาติไว้ที่ 50%
ด้านพื้นที่เช่าเหลืออีกประมาณ 4 ยูนิต ซึ่งถือว่าน้อยมากจากทั้งหมดพื้นที่ 41,000 ตารางเมตร ส่วนที่เช่าไปแล้วนั้นก็เปิดบริการแล้วทั้งหมด เหลือเพียง 1-2 ยูนิตเท่านั้น สำหรับปัญหาพื้นชั้น 5 ที่หลุดร่อนและไม่ดีได้รื้อและสร้างใหม่แล้ว หลังจากนี้คาดว่านักท่องเที่ยวน่าจะเริ่มเข้ามากขึ้นแล้วหลังจากที่ปัญหาต่างๆ ในไทยได้สงบลง หลังจากนี้เราจะมีการจัดกิจกรรมมากขึ้น เช่นวันที่ 20 พ.ย.ศกนี้ จะจัดงานคาบิเนตโชว์ และเตรียมเปิดลานไวน์บนชั้น 5 ประมาณเดือนธ.ค.57