AEC เปิดประตูสื่อนอกบ้าน ขุมทรัพย์ใหม่ตีจังหวัดหัวเมืองชั้นตรีติดชายแดนร่วม 20 จังหวัด คาดเม็ดเงินพุ่ง 50% ในปี 2015 จาก 100 ล้านบาท ชี้ผู้ประกอบการเริ่มบุกทั้ง ตจว. และประเทศเพื่อนบ้าน ชู 3ปัจจัยเจาะลึกวางแผนสื่อให้ได้ผล
นายสุรเชษฐ์ บำรุงสุข ผู้จัดการ บริษัท คินเนติค เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด เอเยนซีให้บริการและวางแผนกลยุทธ์การใช้สื่อนอกบ้านในเครือดับบลิวพีพี กรุ๊ป เปิดเผยว่า การเปิดกลุ่มเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สื่อนอกบ้านในเขตจังหวัดชายแดนของไทยและจังหวัดที่เป็นหัวเมืองตรีเติบโตขึ้นอย่างมาก เพื่อเอื้อต่อการสร้างแบรนด์สินค้าท้องถิ่นและอินเตอร์แบรนด์ที่จำหน่ายได้ดีในจังหวัดหรือแถบชายแดนนั้นๆ โดยเฉพาะสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภค รวมถึงด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
นอกจากการเปิดเออีซีแล้ว การเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าเชื่อมต่อในประเทศอาเซียนเข้าด้วยกัน การมีสะพานเชื่อมต่อระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน 7-8 สะพาน และท่าเรือน้ำลึกทวาย ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จังหวัดชายแดนที่มีกว่า 31 จังหวัด แบ่งเป็น 7จังหวัดติดเขมร 12 จังหวัดติดลาว 10 จังหวัดติดพม่า และ 4 จังหวัดติดมาเลเซีย รวมถึงจังหวัดหัวเมืองชั้นตรี ได้แก่ น่าน อุตรดิตถ์ ศรีสะเกษ และมุกดาหาร มีการพัฒนาและก้าวขึ้นเป็นหัวเมืองรองได้ เพราะจะมีถนนที่ใหญ่ขึ้น มีผังเมืองเปลี่ยนไป มีถนนวงแหวนอ้อมเมือง ที่ดินขยับขึ้นเป็นไร่ละ 3-5 ล้านบาท จากไร่ละ 2 แสนบาทในช่วง 10 ปี
ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ก่อให้เกิดสังคมเมือง และพฤติกรรมของผู้คนจะหันมาใช้ชีวิตแบบคนเมืองมากยิ่งขึ้น แต่ยังเป็นกลุ่มที่ตื่นเช้าเข้านอนเร็ว และใช้ชีวิตนอกบ้านไม่มากเท่าคนกรุงเทพฯ ส่งผลให้ค้าปลีกจะขยายไปสู่ชุมชน ทั้งรูปแบบมอลล์ขนาดใหญ่ และแบบเอ็กซ์เพรสแทนที่ร้านโชวห่วย เช่น มินิบิ๊กซี และโลตัสเอ็กซ์เพรส เป็นต้น ส่งผลให้สื่อนอกบ้านเริ่มมีความสำคัญด้วยเช่นกัน ป้ายขนาดใหญ่จะเริ่มมีบทบาท รถแห่สำหรับโปรโมชันและเปิดตัวสินค้าใหม่จะมีประสิทธิภาพมากสุด
ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องมีการวางแผนการใช้สื่อนอกบ้านในจังหวัดเหล่านี้ให้ดี โดยจะต้องคำนึง 3 ปัจจัยหลักเป็นสำคัญ คือ 1. P คือคนและบรรทัดฐานของผู้คนในพื้นที่นั้น ดูวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และพฤติกรรมการใช้สินค้า เป็นต้น 2. C หรือพิมพ์เขียวของเมือง ดูผังเมือง เส้นทางการเดินทาง และการเกิดของพื้นที่รีเทล และ 3. V ยานพาหนะ การเดินทาง เพื่อเลือกใช้สื่อให้ดีที่สุด
โดยพบว่าในกลุ่มจังหวัดหัวเมืองตรียังคงใช้มอเตอร์ไซค์ในการเดินทาง 70% รถยนต์ส่วนบุคคล 34% และรถประจำทาง 13% ส่วนกลุ่มจังหวัดหัวเมืองโทใช้มอเตอร์ไซค์ในการเดินทาง 40% รถยนต์ 39% และจักรยาน 13% ส่งผลให้สื่อนอกบ้าน 5 อันดับแรกที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับจังหวัดเหล่านี้ คือ 1. บิลบอร์ด 2. Leaflets 3. POS/โปสเตอร์ 4. รถโดยสาร และ 5. รถแห่
นายสุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า นอกจากความน่าสนใจในจังหวัดเหล่านี้ ตลาดอินโดจีนใน 3 ประเทศ คือ พม่า เขมร และกัมพูชา เป็นประเทศที่น่าสนใจเรื่องของการลงทุนด้านสื่อนอกบ้านเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น พม่า พบว่าส่วนใหญ่ลงโฆษณาในแมสมีเดียเป็นสื่อหลัก ตามมาด้วยทีวี และแมกกาซีน ส่วนสื่อนอกบ้านมีความคล้ายไทยมาก ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีนักลงทุนไทยเริ่มเข้าไปทำตลาดบ้างแล้ว รวมถึงในหัวเมืองสำคัญทางชายแดน เช่น หนองคายที่มองถึงเวียงจันทร์ และแม่สอด จังหวัดตาก ที่มองตลาดไปถึงจังหวัดเมียวดีของพม่า เป็นต้น
“การเปิดอาเซียน ทำให้สื่อนอกบ้านจะเติบโตได้ดีในกลุ่มจังหวัดชายแดน ส่วนสื่อนอกบ้านที่จะมีประสิทธิภาพมากสุดในระยะแรก คือ บิลบอร์ด ทรานซิต และสื่อ ณ จุดขาย โดยเชื่อว่าเฉพาะบิลบอร์ดจากราคาลงโฆษณา 5 หมื่นบาท จะขยับขึ้นเป็นเท่าตัวได้หลังเปิดเออีซี หรือภาพรวมสื่อนอกบ้านในจังหวัดหัวเมืองชั้นตรีกว่า 20 จังหวัดปัจจุบันน่าจะมีมูลค่า 100 ล้านบาท หลังเปิดเออีซีน่าจะเติบโตได้อย่างน้อยอีก 50%”
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมสื่อนอกบ้านมูลค่า 12,000 ล้านบาท ในไตรมาสสี่นี้น่าจะติดลบ 5% ขณะที่ 3 ไตรมาสที่ผ่านมาติดลบ 10% แต่เชื่อว่าหากสถานการณ์ทุกอย่างนิ่งน่าจะเริ่มเห็นการเติบโตได้บ้าง หรือในปี 2558 เชื่อว่าภาพรวมน่าจะกลับมาโตได้อีกไม่เกิน 5% โดยการเติบโตหลักมาจาก สื่อทรานซิต อินสโตร์ และบิลบอร์ดในต่างจังหวัดเป็นหลัก
นายสุรเชษฐ์ บำรุงสุข ผู้จัดการ บริษัท คินเนติค เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด เอเยนซีให้บริการและวางแผนกลยุทธ์การใช้สื่อนอกบ้านในเครือดับบลิวพีพี กรุ๊ป เปิดเผยว่า การเปิดกลุ่มเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สื่อนอกบ้านในเขตจังหวัดชายแดนของไทยและจังหวัดที่เป็นหัวเมืองตรีเติบโตขึ้นอย่างมาก เพื่อเอื้อต่อการสร้างแบรนด์สินค้าท้องถิ่นและอินเตอร์แบรนด์ที่จำหน่ายได้ดีในจังหวัดหรือแถบชายแดนนั้นๆ โดยเฉพาะสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภค รวมถึงด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
นอกจากการเปิดเออีซีแล้ว การเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าเชื่อมต่อในประเทศอาเซียนเข้าด้วยกัน การมีสะพานเชื่อมต่อระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน 7-8 สะพาน และท่าเรือน้ำลึกทวาย ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จังหวัดชายแดนที่มีกว่า 31 จังหวัด แบ่งเป็น 7จังหวัดติดเขมร 12 จังหวัดติดลาว 10 จังหวัดติดพม่า และ 4 จังหวัดติดมาเลเซีย รวมถึงจังหวัดหัวเมืองชั้นตรี ได้แก่ น่าน อุตรดิตถ์ ศรีสะเกษ และมุกดาหาร มีการพัฒนาและก้าวขึ้นเป็นหัวเมืองรองได้ เพราะจะมีถนนที่ใหญ่ขึ้น มีผังเมืองเปลี่ยนไป มีถนนวงแหวนอ้อมเมือง ที่ดินขยับขึ้นเป็นไร่ละ 3-5 ล้านบาท จากไร่ละ 2 แสนบาทในช่วง 10 ปี
ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ก่อให้เกิดสังคมเมือง และพฤติกรรมของผู้คนจะหันมาใช้ชีวิตแบบคนเมืองมากยิ่งขึ้น แต่ยังเป็นกลุ่มที่ตื่นเช้าเข้านอนเร็ว และใช้ชีวิตนอกบ้านไม่มากเท่าคนกรุงเทพฯ ส่งผลให้ค้าปลีกจะขยายไปสู่ชุมชน ทั้งรูปแบบมอลล์ขนาดใหญ่ และแบบเอ็กซ์เพรสแทนที่ร้านโชวห่วย เช่น มินิบิ๊กซี และโลตัสเอ็กซ์เพรส เป็นต้น ส่งผลให้สื่อนอกบ้านเริ่มมีความสำคัญด้วยเช่นกัน ป้ายขนาดใหญ่จะเริ่มมีบทบาท รถแห่สำหรับโปรโมชันและเปิดตัวสินค้าใหม่จะมีประสิทธิภาพมากสุด
ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องมีการวางแผนการใช้สื่อนอกบ้านในจังหวัดเหล่านี้ให้ดี โดยจะต้องคำนึง 3 ปัจจัยหลักเป็นสำคัญ คือ 1. P คือคนและบรรทัดฐานของผู้คนในพื้นที่นั้น ดูวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และพฤติกรรมการใช้สินค้า เป็นต้น 2. C หรือพิมพ์เขียวของเมือง ดูผังเมือง เส้นทางการเดินทาง และการเกิดของพื้นที่รีเทล และ 3. V ยานพาหนะ การเดินทาง เพื่อเลือกใช้สื่อให้ดีที่สุด
โดยพบว่าในกลุ่มจังหวัดหัวเมืองตรียังคงใช้มอเตอร์ไซค์ในการเดินทาง 70% รถยนต์ส่วนบุคคล 34% และรถประจำทาง 13% ส่วนกลุ่มจังหวัดหัวเมืองโทใช้มอเตอร์ไซค์ในการเดินทาง 40% รถยนต์ 39% และจักรยาน 13% ส่งผลให้สื่อนอกบ้าน 5 อันดับแรกที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับจังหวัดเหล่านี้ คือ 1. บิลบอร์ด 2. Leaflets 3. POS/โปสเตอร์ 4. รถโดยสาร และ 5. รถแห่
นายสุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า นอกจากความน่าสนใจในจังหวัดเหล่านี้ ตลาดอินโดจีนใน 3 ประเทศ คือ พม่า เขมร และกัมพูชา เป็นประเทศที่น่าสนใจเรื่องของการลงทุนด้านสื่อนอกบ้านเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น พม่า พบว่าส่วนใหญ่ลงโฆษณาในแมสมีเดียเป็นสื่อหลัก ตามมาด้วยทีวี และแมกกาซีน ส่วนสื่อนอกบ้านมีความคล้ายไทยมาก ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีนักลงทุนไทยเริ่มเข้าไปทำตลาดบ้างแล้ว รวมถึงในหัวเมืองสำคัญทางชายแดน เช่น หนองคายที่มองถึงเวียงจันทร์ และแม่สอด จังหวัดตาก ที่มองตลาดไปถึงจังหวัดเมียวดีของพม่า เป็นต้น
“การเปิดอาเซียน ทำให้สื่อนอกบ้านจะเติบโตได้ดีในกลุ่มจังหวัดชายแดน ส่วนสื่อนอกบ้านที่จะมีประสิทธิภาพมากสุดในระยะแรก คือ บิลบอร์ด ทรานซิต และสื่อ ณ จุดขาย โดยเชื่อว่าเฉพาะบิลบอร์ดจากราคาลงโฆษณา 5 หมื่นบาท จะขยับขึ้นเป็นเท่าตัวได้หลังเปิดเออีซี หรือภาพรวมสื่อนอกบ้านในจังหวัดหัวเมืองชั้นตรีกว่า 20 จังหวัดปัจจุบันน่าจะมีมูลค่า 100 ล้านบาท หลังเปิดเออีซีน่าจะเติบโตได้อย่างน้อยอีก 50%”
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมสื่อนอกบ้านมูลค่า 12,000 ล้านบาท ในไตรมาสสี่นี้น่าจะติดลบ 5% ขณะที่ 3 ไตรมาสที่ผ่านมาติดลบ 10% แต่เชื่อว่าหากสถานการณ์ทุกอย่างนิ่งน่าจะเริ่มเห็นการเติบโตได้บ้าง หรือในปี 2558 เชื่อว่าภาพรวมน่าจะกลับมาโตได้อีกไม่เกิน 5% โดยการเติบโตหลักมาจาก สื่อทรานซิต อินสโตร์ และบิลบอร์ดในต่างจังหวัดเป็นหลัก