ASTVผู้จัดการรายวัน - วิกฤตปัญหาช่อง 3 แอนะล็อกจอดำ ผู้จัดรายการ/ละคร ครวญต้องแบกรับขาดทุน 40% ฟากเคเบิลเตรียมยื่นอุทธรณ์ฟ้องศาลปกครอง ปล่อยหมัดเด็ดแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า เตรียมเร่ขายพ่วงเสาอากาศรับแอนะล็อก ด้านประธานสมาพันธ์สมาคมดิจิตอลฯ ชี้ทางแก้ต้องเบรกระบบ ทำโครงข่ายให้จบ แล้วรีเซตใหม่ เป็นทางออกเพื่อก้าวต่อไปของดิจิตอลทีวีไทย
วันนี้ (22 ก.ย.) สมาพันธ์สมาคมดิจิตอลคอนเทนต์ บันเทิงไทย ได้จัดสัมมนาขึ้นในหัวข้อ “ก้าวต่อไป ดิจิตอลทีวีไทย” โดยมีวิทยากรให้ความรู้หลายราย โดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหา ช่อง 3 แอนะล็อก กำลังเข้าสู่ภาวะจอดำในระบบเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมในช่วงปลายเดือน ก.ย.ศกนี้ โดยเนื้อหาภายในงานสัมมนาเป็นการสร้างความเข้าใจในปัญหาทีวีดิจิตอลที่กำลังเกิดขึ้น รวมถึงปัญหาว่า ทำไมช่อง 3 แอนะล็อก จึงต้องประสบปัญหาจอดำ
*** วอน กสทช.เร่งเยียวยา หลังต้องคืนเงินเอเยนซี 70% ***
นายวิบูลย์ ลีรัตนขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นคอนเทนต์โพรวายเดอร์และมีรายการที่บริหารเวลาอยู่ในช่อง 3 แอนะล็อก และช่อง 3 ดิจิตอล ยอมรับว่าปัญหาช่อง 3 แอนะล็อกที่จะจอดำนั้น ผู้ชมบนแพลตฟอร์มเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมจะเดือดร้อนมากสุด ส่วนในแง่ของผู้จัดรายการจะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน ดังนั้นจึงอยากให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขยายเวลาในกรณีจะเกิดจอดำให้ยืดออกไปอีก หรือจนกว่าจะแก้ไขปัญหาได้ รวมทั้งมีการเยียวยาให้กับช่อง 3HD หรือช่อง 33 ในกรณีที่รายการจะถูกระงับออกอากาศ หากช่อง 3 แอนะล็อกต้องออกคู่ขนานกับช่อง 3HD
เนื่องจากการที่ช่อง 3 แอนะล็อก และช่อง 3HD มีผู้บริหารเป็นคนละนิติบุคคลกัน แต่ละช่องจึงมีแนวทางในการดำเนินธุรกิจวางไว้อยู่แล้ว การที่ช่อง 3 แอนะล็อกต้องออกคู่ขนานกับช่อง 3HD จะทำให้รายการต่างๆ ที่วางไว้ในช่อง 3HD จะถูกระงับออกไป ส่วนปัญหาช่อง 3 แอนะล็อกที่อาจจะจอดำในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ เบื้องต้นเป็นไปตามที่นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการ ผู้บริหารช่อง 3 ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วคือ จะคืนเงินเอเยนซีในอัตราส่วน 70% ตามฐานผู้ชมที่หายไป
*** ลูกค้าใช้สื่อโฆษณาระยะสั้นหายวูบ 10% ***
“สำหรับเซิร์ช ปัจจุบันมีรายการที่บริหารเวลาในช่อง 3 แอนะล็อก 1 รายการ คือ รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เบื้องต้นพบว่าเอเยนซีมีความกังวลสอบถามเข้ามาถึงปัญหาจอดำอย่างมาก และมีลูกค้าที่ยกเลิกโฆษณาหายไปกว่า 10% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่วางแผนใช้สื่อโฆษณาระยะสั้นแบบเดือนต่อเดือน และจากการแก้ปัญหาเบื้องต้นของ ช่อง 3 แอนะล็อก ที่จะคืนเงินแก่ลูกค้าในสัดส่วน 70% นั้นจะทำให้ต่อรายการต้องอยู่ในภาวะการขาดทุน 30-40% ในการออกอากาศแต่ละครั้ง จากปกติที่ต่อรายการจะมีต้นทุนอยู่ที่ 60% และมีกำไรอยู่ที่ 10-20% จากรายได้รวมทั้งหมด”
บริษัทฯ ยังมีรายการที่ซื้อมาจากต่างประเทศเตรียมออกอากาศทางช่อง 3HD หลายรายการ เช่น การ์ตูนเรื่อง “กัปตันการ์ตูน” เตรียมออกอากาศทางช่อง 3HD ช่อง 33 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00-18.00 น. ในช่วงเดือน ต.ค.นี้ และรายการภาพยนตร์เกาหลีที่เตรียมออกอากาศทางช่อง 3HD เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ได้ทำการขายโฆษณาไปแล้วในเรต 1 แสนบาทต่อนาที ส่วนลด 25% จะต้องระงับออกไป หาก กสทช.แก้ปัญหาให้ช่อง 3 แอนะล็อกมาออกอากาศคู่ขนานกับช่อง 3HD
*** ขาดทุนเพิ่ม 30-40% แถมรับภาระบริหารคน ***
ด้าน นางอรุโณชา ภาณุพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ผู้ผลิตรายการและละครรายหลักทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 มากกว่า 20 ปี กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันช่อง 3 มีผู้จัดละครกว่า 30 บริษัท ขณะที่ “บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น” มีพนักงานกว่า 200 คน รวมกับฟรีแลนซ์แล้วมีถึง 400 คน การที่ ช่อง 3 แอนะล็อกจะต้องเกิดปัญหาจอดำจะทำให้ในแง่ผู้จัดรายการและละครต้องแบกรับต้นทุนสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสต๊อกรายการ หรือการบริหารจัดการคน
สำหรับ “บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น” ปัจจุบันมีละครที่กำลังเริ่มออกอากาศทางช่อง 3 อยู่ 1 เรื่อง คือ “ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู” ที่อยู่ในช่วงปัญหาช่อง 3 จอดำ แต่ไม่น่ามีปัญหาเพราะเป็นการรับจ้างผลิต แต่บริษัทฯ ยังมีรายการและละครที่ออกอากาศทางช่อง 3 แอนะล็อกอีก 3 รายการในลักษณะเช่าเวลา คือ ละคร “น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์” ซิตคอม “รักจัดเต็ม” และละคร “สัมผัสพิศวง” ที่รายได้อาจจะกระทบจากการที่จะต้องคืนเงินแก่เอเยนซีโฆษณาในอัตรา 70% หรือต้องแบกรับการขาดทุนในอัตราใกล้เคียงที่ 30-40% ต่อเทปเช่นรายการอื่นๆ ที่ออกอากาศทางช่อง 3 แอนะล็อก
*** “เคเบิลทีวี” หาทางออกขายพ่วงเสาอากาศ ***
นายวิชิต เอื้ออารียวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญ เคเบิลทีวี จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเคเบิลทีวีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการแพลตฟอร์มที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาช่อง 3 แอนะล็อกจะต้องจอดำนั้น บริษัทฯ ได้รับหนังสือจาก กสทช.แล้วตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่มีคำสั่งห้ามออกอากาศช่อง 3 แอนะล็อกภายใน 15 วัน หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกปรับวันละ 2 หมื่นบาทและยึดใบอนุญาตประกอบกิจการฯ ซึ่งตนได้ปรึกษากับกลุ่มผู้ประกอบการเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมเกือบทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น พีเอสไอ, บิ๊กโฟร์ และไอพีเอ็ม ทุกรายต่างได้รับหนังสือในวันเดียวกัน เบื้องต้นพร้อมที่จะปฏิบัติตาม โดยภายในเที่ยงคืนของวันที่ 30 ก.ย.ที่จะถึงนี้จะยุติการออกอากาศช่อง 3 แอนะล็อก อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เตรียมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไว้แล้ว คือ เตรียมยื่นหนังสืออุทธรณ์ขอผ่อนผันไปยัง กสทช. ซึ่งถ้าไม่ผ่านการพิจารณาจะดำเนินการฟ้องศาลปกครอง และสุดท้ายคือจะมีการขายพ่วงเสาอากาศเพื่อรับชมฟรีทีวีระบบแอนะล็อก ในราคา 500 บาทพร้อมติดตั้ง
*** สมาพันธ์สมาคมดิจิตอลฯ ย้ำต้นตอปัญหาคือ กสทช. ***
ด้าน นายปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย ประธานสมาพันธ์สมาคมดิจิตอลคอนเทนต์ บันเทิงไทย กล่าวสรุปว่า ปัญหาทีวีดิจิตอลไทยที่กำลังเกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เกิดจากความผิดพลาดของ กสทช. จากการที่ภาครัฐไม่มีนโยบายที่เด่นชัด กระทบต่อวงการในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎหมายตามหลัง อย่าง กฎ “มัสต์แคร์รี”, ความไม่พร้อมของโครงข่าย, ความไม่พร้อมของระบบ, เรตติ้งที่ไม่ครอบคลุม, การประชาสัมพันธ์ต่อสังคม และลิขสิทธิ์ เป็นต้น ล้วนแต่ทำให้เกิดปัญหาตามมา
“ก้าวต่อไป ดิจิตอลทีวีไทยจะเกิดขึ้นได้ต้องเบรกระบบทั้งหมดก่อนและมุ่งทำให้เครือข่ายให้ครอบคลุมจนจบ และต้องแจกกล่องรับสัญญาณให้ได้ พร้อมทดสอบระบบให้มีความเสถียรและมั่นคง แล้วจึงกลับมารีสตาร์ททีวีดิจิตอลอีกครั้ง พร้อมวางนโยบายเรื่องทีวีดิจิตอลเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ประกอบการและประชาชนอย่างแท้จริง” นายปราโมทย์กล่าวทิ้งท้าย