“ทีบีเอ็น กรุ๊ป” ปักธงรบสี่มุมเมือง “คอมมูนิตีมอลล์” ควบ “ธุรกิจรถยนต์”

ดีลเลอร์รถยนต์ “โตโยต้า” สยายปีกธุรกิจ “คอมมูนิตีมอลล์” ควบการเพิ่มสาขาโชว์รูม หลังเปิด “เดอะ พาซิโอ” 3 แห่งย่านลาดกระบัง รามคำแหง และกาญจนาภิเษก คาดปี 57 ทำรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 9 พันล้านบาท เตรียมเดินหน้าต่อในปี 58 ผุดคอมมูนิตีมอลล์ แห่งที่ 4 และโชว์รูม สาขาที่ 5 บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ย่านรังสิต พร้อมรุกธุรกิจโรงแรม และคอนโดฯ พื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก

นายชาญ เลิศประเสริฐภากร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีบีเอ็น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจศูนย์บริการและโชว์รูม “โตโยต้า ทีบีเอ็น” จนสามารถก้าวขึ้นเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ “โตโยต้า” อันดับ 6 ในประเทศไทยได้สำเร็จภายในระยะเวลา 10 ปี ต่อมา จึงมีนโนยบายเพิ่มสาขาศูนย์บริการ และโชว์รูมควบคู่ไปกับการลงทุนและขยายธุรกิจคอมมูนิตีมอลล์ “เดอะ พาซิโอ” (The Paseo) ในทำเลเดียวกัน เนื่องจากต้องการอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการในศูนย์บริการ และโชว์รูมซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 45 นาที

ในเบื้องต้น บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั้งสี่มุมเมืองของพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากแนวโน้มการขยายตัวของเมืองที่ประชากรเริ่มกระจายพื้นที่อยู่อาศัยไปย่านชานเมืองมากขึ้นกว่าในอดีตที่นิยมกระจุกตัวอยู่ในตัวเมืองชั้นในเท่านั้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีการลงทุนคอมมูนิตีมอลล์ พร้อมศูนย์บริการ และโชว์รูมในทำเลเดียวกันแล้ว 3 แห่งคือ “เดอะ พาซิโอ มอลล์” บนถนนอ่อนนุช-สุวรรณภูมิ “เดอะ พาซิโอ ทาวน์” บนถนนรามคำแหง และล่าสุดที่กำลังจะเปิดให้บริการประมาณกลางเดือน ธ.ค.ศกนี้ คือ “เดอะ พาซิโอ พาร์ค” บนถนนกาญจนาภิเษก

“เดอะ พาซิโอ ทั้ง 3 สาขาถือเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกัน และมีจุดเด่นที่แตกต่างจากคอมมูนิตีมอลล์อื่นๆ คือ มีศูนย์บริการ และโชว์รูมในพื้นที่เดียวกันซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการศูนย์จำหน่าย และบริการรถยนต์สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ในขณะที่รอรับบริการ ทั้งเรื่องของธุรกรรมการเงิน การรับประทานอาหาร การจับจ่ายใช้สอยสินค้าต่างๆ และอื่นๆ ที่มีอยู่ภายในคอมมูนิตีมอลล์ ซึ่งถือเป็นการตอบสนองความต้องการไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในเรื่องความสะดวกสบายและประหยัดเวลา”

นายชาญ กล่าวอีกว่า การลงทุนและขยายธุรกิจของบริษัทฯ มีขนาดพื้นที่ใหญ่ขึ้นตามอัตราการเติบโตของธุรกิจ ดังจะเห็นได้จาก “เดอะ พาซิโอ มอลล์” ถนนอ่อนนุช-สุวรรณภูมิ มีขนาดพื้นที่ 2 ไร่ “เดอะ พาซิโอ ทาวน์” ถนนรามคำแหง พื้นที่ 48 ไร่ และ “เดอะ พาซิโอ พาร์ค” ถนนกาญจนาภิเษก พื้นที่ 50 ไร่ โดยในปี 2558 บริษัทฯ มีแผนลงทุนคอมมูนิตีมอลล์แห่งที่ 4 และศูนย์บริการและโชว์รูม สาขาที่ 5 บนที่มากกว่า 50 ไร่ย่านรังสิต

“ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องมาตลอด โดยในส่วนของศูนย์บริการและโชว์รูม เติบโตประมาณ 5-8% ขณะที่คอมมูนิตีมอลล์ เติบโตประมาณ 60-70% โดยในปี 2557 คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 9 พันล้านบาท แบ่งเป็นศูนย์บริการและโชว์รูม ไม่ต่ำกว่า 8 พันล้านบาท และคอมมูนิตีมอลล์ ประมาณ 800-900 ล้านบาท โดยในปี 2558 บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนในส่วนของธุรกิจโรงแรม และคอนโดมิเนียม อย่างน้อย 2 แห่ง ย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกเพื่อรองรับการเติบโตของชุมชนในอนาคต ทั้งยังได้วางแผนนำกลุ่มธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเวลาอันใกล้อีกด้วย”

โครงการ “เดอะ พาซิโอ พาร์ค” ตั้งอยู่บนถนนกาญจนาภิเษก ใกล้กับสมาคมชาวปักษ์ใต้ ตกแต่งด้วยคอนเซ็ปต์ “ญี่ปุ่น 3 ยุค” คือ สมัยโบราณ “ยุคเอโดะ” สมัยปัจจุบัน “ยุคเฮเซ” และยังได้จำลองบรรยากาศของญี่ปุ่น FUTURISTIC ในอนาคตที่มีเทคโนโลยีและความเจริญสูงสุด มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 50 ไร่ ใช้งบประมาณลงทุนทั้งสิ้น 2.3 พันล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าที่ดิน 1.1 พันล้านบาท งบลงทุนคอมมูนิตีมอลล์ 950 ล้านบาท ส่วนศูนย์บริการและโชว์รูม “โตโยต้า ทีบีเอ็น” กาญจนาภิเษก มีพื้นที่ทั้งสิ้น 12 ไร่ งบลงทุน 250 ล้านบาท โดยตั้งเป้ารายได้รวมทั้งสิ้น 2.85 พันล้านบาทต่อปี แบ่งเป็น “เดอะ พาซิโอ พาร์ค” 350 ล้านบาท ศูนย์บริการและโชว์รูม 2.5 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้เวลาคืนทุนประมาณ 6-7 ปี