xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.ดึงซาอุดิอารัมโกถือหุ้น 40% ผุดโรงกลั่นปิโตรเคมีที่เวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปตท.ดึงซาอุดิอารัมโก ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย ถือหุ้น 40% ในโครงการโรงกลั่นและปิโตรเคมีครบวงจรในเวียดนาม มูลค่าเงินลงทุน 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เร่งเดินหน้าเต็มที่หลังนายกฯ เวียดนามสั่งหน่วยราชการสรุปผลศึกษาดังกล่าวให้เสร็จ 1 เดือนเพื่อพิจารณา ยันโครงการนี้ช่วยเพิ่ม GDP เวียดนามโตขึ้น 3-4%

นายอธิคม เติบศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการลงทุนโรงกลั่นและปิโตรเคมีครบวงจรในประเทศเวียดนามว่า กลุ่ม ปตท. และพันธมิตรร่วมทุน คือ ซาอุดิอารัมโก (Saudi Aramco) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ได้ยื่นรายงานความเป็นไปได้ของโครงการดังกล่าวต่อรัฐบาลเวียดนาม โดยนายเหงียน เติ้น สุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้สั่งการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าสรุปรายงานดังกล่าวให้แล้วเสร็จและส่งเรื่องมาให้พิจารณาภายใน 1 เดือน

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) เวียดนามขึ้น 3-4% โดยยังไม่ได้โครงการต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นจากโครงการโรงกลั่นและปิโตรเลียมครบวงจร โดยโครงการนี้หากได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเวียดนามจะใช้เวลา 6-7 ปีแล้วเสร็จผลิตเชิงพาณิชย์ได้ โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้บางส่วนจะต้องส่งออกไปต่างประเทศ

โดยโครงการโรงกลั่นและปิโตรเคมีครบวงจรที่เวียดนามในบริเวณเขตเศรษฐกิจ Nhon Hoi จังหวัดบินดินห์ ประกอบด้วย โรงกลั่นน้ำมันขนาด 4 แสนบาร์เรล/วัน และปิโตรเคมี 5 ล้านตัน/ปี กลุ่ม ปตท. 40% ซาอุดิ อารัมโก ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของโลก 40% และเวียดนาม 20% ใช้เงินลงทุนสำหรับโครงการนี้ 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

นายอธิคมกล่าวต่อไปว่า พันธมิตรร่วมทุนอย่างซาอุดิอารัมโกถือเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งจะช่วยจัดหาด้านน้ำมันดิบป้อนโรงกลั่นขนาด 4 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งตอบโจทย์ให้รัฐบาลเวียดนามเกี่ยวกับความมั่นคงด้านวัตถุดิบที่ใช้ในโครงการดังกล่าว

ส่วนกลุ่ม ปตท.ที่ถือหุ้น 40% นั้นยังไม่ได้มีการจัดสรรหุ้นดังกล่าวให้บริษัทในเครือ ปตท. เบื้องต้นมี บมจ.ไออาร์พีซี และ บมจ.ไทยออยล์ได้เข้ามาร่วมศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการดังกล่าว แต่ บมจ.พีทีที โกลบอลเคมิคอล ยังไม่ได้เข้ามาร่วมอย่างเต็มตัว เนื่องจากมีการลงทุนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่ประเทศอินโดนีเซีย

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ปตท.ร่วมกับพันธมิตรร่วมทุนจะเข้าไปดูรายละเอียดด้านการตลาดทั้งน้ำมันและปิโตรเคมี ซึ่งอาจจะมีการปรับปรุงรายละเอียดโครงสร้างการผลิตอีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับตลาดในอนาคต รวมทั้งเจรจาการสนับสนุนจากรัฐบาลเวียดนาม


กำลังโหลดความคิดเห็น