อาเซียนผนึกชาติมหาอำนาจโลก ร่วมมือขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน ตั้งเป้าลดอุปสรรคทางการค้า ปรับปรุงกฎระเบียบให้ง่ายขึ้น พร้อมเร่งเดินหน้าเจรจาเปิดเสรีกรอบ RCEP และ TPP ไทยลงนามแก้ความตกลง FTA อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ คาดทำให้ค้าขายกันง่ายขึ้น จับมือแคนาดาขยายความร่วมมือการค้า การลงทุนเพิ่ม
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อาเซียน 10 ประเทศ และรัฐมนตรีเศรษฐกิจจากประเทศคู่เจรจา ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย สหรัฐฯ และรัสเซีย ได้ร่วมกันประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ที่กรุงเนย์ปิดอว์ พม่า ซึ่งได้มีการหารือสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลก และเห็นชอบให้มีการขยายการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น เพื่อสร้างความเติบโตให้แก่เศรษฐกิจในภูมิภาคและของโลก
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ผลักดันให้มีการลดและยกเลิกอุปสรรคทางการค้าการลงทุน การอำนวยความสะดวกทางการค้า การปรับประสานด้านกฎระเบียบ การเชื่อมโยงในภูมิภาค การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนการจัดทำความตกลงการค้าเสรีที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ (RCEP) และความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) รวมทั้งการผลักดันให้ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (TFA) ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างคล่องตัวที่แท้จริง
ขณะเดียวกัน ได้มีการหารือถึงการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (คลัสเตอร์) ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษจะดึงดูดบริษัทให้เข้ามาลงทุน และจะช่วยให้เกิดการพัฒนาในภาคอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งที่ผ่านมา พบว่า ภาคเอกชนจากประเทศในกลุ่ม EAS ได้มีการเข้ามาลงทุนในอาเซียนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ไทยยังได้ลงนามในพิธีสารเพื่อแก้ไขความตกลงเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA) ซึ่งจะเกิดผลดีต่อผู้ประกอบการไทย เพราะได้มีการเปลี่ยนบัญชีกฎถิ่นกำเนิดสินค้าใหม่ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงพิกัดอัตราศุลกากรครั้งล่าสุด ซึ่งแสดงพิกัดอัตราศุลกากรทุกรายการ ทำให้หารายละเอียดสินค้าต่างๆ ได้ง่ายขึ้น มีการให้แจ้งข้อมูลที่ต้องสำแดงน้อยลง และไม่จำเป็นต้องแจ้งราคาสินค้า FOB หากไม่ได้ผลิตโดยการสะสมมูลค่าถิ่นกำเนิด ช่วยให้รักษาความลับทางธุรกิจและเป็นไปตามธรรมเนียมการค้าในปัจจุบัน
นอกจากนี้ อาเซียนยังได้หารือกับแคนาดาในการเพิ่มความร่วมมือในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้น โดยการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการจัดหาวัตถุดิบ การผลิตสินค้า และการจำหน่าย ซึ่งเป็นการช่วยสร้างโอกาสให้กับ SMEs ของอาเซียน และการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะด้านเทคโนโลยีในอาเซียน เพื่อส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งนี้ อาเซียนและแคนาดายังได้หารือถึงการจัดทำแผนงานความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนสำหรับปี 2559-2563 โดยความร่วมมือจะต้องสอดคล้องกับวิสัยทัศน์อาเซียนหลังปี 2558 ด้วย