xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็มพิคเจอร์” ร่วมทุนค่ายหนังผุด “ทรานฟอร์เมชั่น ฟิล์ม” ลุยต่างประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรานส์ฟอร์มเมชั่น ฟิล์ม จำกัด ร่วมกับ “พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา” (กลาง) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู ไอคอนเท้นท์ จำกัด ในกลุ่มทรู “ธนกร ปุลิเวคินทร์” (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) “คมปกร วัจนะรัตน์” (ขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกฟิล์ม สตูดิโอ จำกัด และ “ภูมิชาย วัชรพงศ์” (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ พลัส จำกัด
“เอ็มพิคเจอร์” ผนึก 3 ทุนผุดค่ายหนัง “ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม” สร้างแกร่งลุยสร้างภาพยนตร์รับตลาดทั้งในและต่างประเทศ หวังรายได้ปีแรก 300 ล้านบาท เร่งผลิตหนังไทยเฉลี่ย 3-4 เรื่องต่อปี

นายสง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด เปิดเผยว่า “ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม” เกิดจากการรวมตัวของ 4 บริษัท คือ เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์, บางกอกฟิล์ม สตูดิโอ, ทรู ไอคอนเท้นท์ ในสัดส่วนเท่ากันคือบริษัทละ 28.57% หรือรายละ 50 ล้านบาท และแม็ทชิ่ง สตูดิโอ พลัส ลงทุนในสัดส่วน 14.29% หรือมูลค่า 25 ล้านบาท รวมเป็น 175 ล้านบาท โดยตั้งเป้าผลิตภาพยนตร์ปีละ 4-6 เรื่อง และมีแผนการตลาดภาพยนตร์สู่ภูมิภาคอาเซียน โดยในปีแรกคาดการณ์ว่าจะมีรายได้ 300 ล้านบาท

ในปีนี้จะมีภาพยนตร์ออกมา 2 เรื่อง ลงทุนเรื่องละ 40 ล้านบาท คือ “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” และ “ซิงเกิลเลดี้ เพราะความสัมพันธ์มันซับซ้อน” โดยในปีหน้าจะเริ่มเข้าสู่เฟสสองที่น่าจะมีการลงทุนภาพยนตร์ตามแผนที่วางไว้และมีรายได้อยู่ที่ 300 ล้านบาทต่อปี เฉลี่ยต่อเรื่องมีรายได้ประมาณ 150 ล้านบาท มาจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 100 ล้านบาท ที่เหลือมาจากการขายคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยในปีหน้าเตรียมที่จะรุกในส่วนของการจับมือกับต่างประเทศ รับจ้างผลิตและการนำภาพยนตร์ออกฉายในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในเออีซีด้วย รวมถึงจีนและเกาหลีใต้ ที่พบว่าให้ความสนใจในภาพยนตร์ไทยและนักแสดงไทยอย่างมาก

“การจับมือกันของทั้ง 4 บริษัทเพื่อต้องการยกระดับการผลิตภาพยนตร์ไทยสู่ระดับโกลบอลมากยิ่งขึ้น หลังพบว่าปัจจุบันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยมีการพัฒนาและได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากคนไทยและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญจะช่วยในเรื่องของต้นทุน และดึงเอาจุดแข็งของแต่ละบริษัทมาต่อยอดธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างดี” นายสง่ากล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น