ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิร่วมมือกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศออกมาตรการติดตั้งเทอร์โมสแกนตรวจอุณหภูมิผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศในกลุ่มที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา และเตรียมพิจารณาติดตั้งจุดคัดกรองผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มเติมอีก 5 เครื่อง
นายแพทย์ เจรียงโรจน์ กฤษณา ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ออกมาตรการป้องกัน โดยมีการติดตั้งเครื่อง Thermoscan จำนวน 1 เครื่องที่บริเวณอาคารเทียบเครื่องบิน E ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา พร้อมจัดหลุมจอดสำหรับเที่ยวบินที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด ได้แก่ กินี ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และไนจีเรีย ไว้ที่อาคารเทียบเครื่องบิน E ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศดังกล่าวเมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ ถ้าหากพบอุณหภูมิสูงผิดปกติ ทางด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศจะให้คำแนะนำและดำเนินการตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และด่านควบคุมโรคฯ จะได้มีการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาติดตั้งจุดคัดกรองผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มเติมอีก 5 เครื่อง ได้แก่ พื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ก่อนเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง จำนวน 3 เครื่อง พื้นที่สำหรับผู้โดยสารผ่านเครื่อง (Transit) จำนวน 2 เครื่องด้วย
นอกจากนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังได้มีการติดตั้งเจลล้างมือฆ่าเชื้อโรคตามช่องทางเข้า- ออก เคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ภายในอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน รวมแล้วกว่า 80 จุด เพื่อให้ผู้โดยสารได้ใช้ล้างมือฆ่าเชื้อโรคก่อนเข้าเมือง เป็นการรักษาสุขภาพอนามัยและป้องกันโรคติดต่อ และอนาคตจะมีการพิจารณาติดตั้งเจลดังกล่าวเพิ่มเติมในพื้นที่คัดแยกกระเป๋าและสัมภาระ (Sorting Area) เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานขนถ่ายกระเป๋าได้มีความมั่นใจในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์โรคติดต่ออีโบลา ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการป้องกันไวรัสอีโบลา สามารถโทร.ติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค หมายเลข 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง