นายเอกชัย โชติยานนท์ ประธานกรรมการบริษัท ศิลามณี (1992) หินอ่อนและแกรนิต จำกัด, บริษัท อาณาจักรสุโขทัยหินอ่อนและแกรนิต จำกัด, บริษัท PV หินอ่อน จำกัด และบริษัท แกรนิตเพชรบูรณ์ จำกัด ซึ่งนับว่าเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยที่มีความเก่าแก่และมีศักยภาพเป็นที่ยอมรับของไทยและต่างชาติ ได้อธิบายว่าปัจจุบันธุรกิจหินอ่อนและหินแกรนิตมีการแข่งขันกันสูงมาก สืบเนื่องมาจากมีอัตราการเติบโตในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น เช่น คอนโดมิเนียม, โรงแรม, บ้านจัดสรร รวมทั้งโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคของภาครัฐ ทำให้มีความต้องการของตลาดด้านหินอ่อนและแกรนิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีการนำเข้าหินอ่อนและหินแกรนิตจากประเทศจีนมาเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ยิ่งมีอัตราการแข่งขันสูงขึ้นตามลำดับ
*สภาพปัญหาการแข่งขันในธุรกิจหินอ่อนในประเทศไทย มีแนวทางแก้ไขอย่างไร
นายเอกชัยกล่าวว่า ทางด้านบริษัทต่างๆ ในเครือของบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจมีสัมปทานเหมืองแร่หินอ่อนและหินแกรนิตอยู่ในหลากหลายจังหวัด ยังเป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายแปรรูปหินอ่อนและหินแกรนิตอยู่หลายชนิด เช่น แกรนิตส้มหนองบัว, แกรนิตดำไทย, แกรนิตขาวโทน, แกรนิตพนมสารคาม, หินอ่อนชมพูสุโขทัย เป็นต้น ปัจจุบันผู้ซื้อเลือกใช้หินไทยน้อยลงกว่าในอดีตถึง 40% เนื่องจากสินค้าจากประเทศจีนถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญในด้านราคาที่ถูกกว่าเนื่องจากปัจจัยราคาด้านต้นทุนการผลิตจากเมืองจีนทำได้ราคาที่ถูกมาก ทำให้สินค้าจากประเทศจีนมีราคาถูกลงส่งผลกระทบอย่างชัดเจนแก่สินค้าของประเทศไทย
ดังนั้น หากภาครัฐสามารถช่วยส่งเสริมผู้ผลิตในไทยได้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการผลิต การส่งเสริมด้านการส่งออก การลดต้นทุนในการผลิตอีกทั้งในด้านการแข่งขันด้านการตลาดนานาชาติก็จะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการในไทยได้อีกระดับหนึ่ง ทั้งนี้ปัจจุบันทางบริษัทฯ ก็ได้ปรับกลยุทธ์และแผนทางการตลาดที่จะลดต้นทุนปัจจัยด้านการผลิตมากยิ่งขึ้น และมีการขยายตลาดส่งออกมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะหินประเภท ทราเวอร์ทีน (Travertine) ซึ่งได้รับความสนใจจากตลาดต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
*การปรับตัวเพื่อรองรับการเปิดตลาดเออีซีอย่างไร
นายเอกชัยกล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทฯ ยังได้เตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาด AEC อีกด้วย ดังนั้นหากรัฐบาลมีการส่งเสริมมากยิ่งขึ้นในด้านการผลิตและการจำหน่ายก็จะยกระดับให้ประเทศไทยสามารถจะเป็นผู้นำด้านการแปรรูปหิน การผลิตหินอ่อนและแกรนิตในตลาด AEC ได้อย่างแน่นอน
“อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญต่อผู้ประกอบการ มีการส่งเสิรมอย่างจริงจัง ตั้งแต่กระบวนการผลิตและจำหน่าย ยกระดับให้ผู้ประกอบการคนไทยสามารถเป็นผู้นำในตลาดหินอ่อนได้ ก็จะทำให้สามารถดึงดูดเงินตราเข้าประเทศไทยได้อีกทางหนึ่ง”