“กพช.” เตรียมถก 15 ส.ค.นี้หวังเคาะแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ที่ปรับเชื้อเพลิงผลิตไฟให้สมดุลลดพึ่งพิงก๊าซฯ ในสัดส่วนที่ต่ำลง แยกท่อก๊าซฯ ออกจาก บมจ.ปตท. ขายหุ้น ปตท.ใน SPRC จับตาโครงสร้างราคาน้ำมันคาดเสร็จเร็วๆ นี้แนวโน้มน้ำมันกลุ่มเบนซินลดราคา แอลพีจีทุกส่วนพาเหรดขยับขึ้น
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า หรือพีดีพีฉบับใหม่ (พีดีพี 2015), การแยกท่อก๊าซธรรมชาติออกจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และเรื่องการขายหุ้น ปตท.ในโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง หรือ SPRC เข้าที่ประชุม กพช.
ทั้งนี้ แผนรายละเอียดพีดีพี 2015 จะมีการปรับปรุงสัดส่วนเชื้อเพลิงให้มีความเหมาะสม โดยเฉพาะการปรับลดสัดส่วนก๊าซฯ ลงมาเพื่อสร้างสมดุลและความมั่นคง เพราะขณะนี้ไทยพึ่งพาก๊าซฯ ในการผลิตไฟฟ้าสูงมากถึง 70% รวมทั้งแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะไทยยังต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ พร้อมกับเตรียมเดินสายทำความเข้าใจกับประชาชนทุกภาคส่วนตลอดระยะเวลา 3 เดือน
สำหรับกรณีการประมูลโรงไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ หรือไอพีพี จำนวน 5 พันเมกะวัตต์ ของบริษัท อินดิเพนเดนท์ พาวเวอร์ ดีเวลอปเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท กัลฟ์ เอนเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ กับบริษัท มิตซุยแอนด์คัมปะนี (ไทยแลนด์) เป็นผู้ชนะประมูลเพียงรายเดียว ตั้งแต่ปี 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังมีผู้ร้องเรียนมายังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. โดยคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เป็นผู้เข้ามาพิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้ว
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงานกล่าวถึงความคืบหน้าการปรับโครงสร้างราคาพลังงานว่า ขณะนี้ทาง คสช.อยู่ระหว่างการพิจารณาโครงสร้างราคาพลังงานแต่ละชนิด ซึ่งคาดว่าจะเสร็จเร็วๆ นี้ เบื้องต้นคาดว่าราคาน้ำมันมีโอกาสปรับลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันเบนซิน 95 ที่ปัจจุบันราคาขายปลีกอยู่ที่ 48.75 บาทต่อลิตร โดยภายหลังจากปรับโครงสร้างราคาพลังงานจะมีการปรับลดอัตราจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและลดภาษีสรรพสามิตลง คาดว่าราคาน้ำมันเบนซิน 95 มีโอกาสลดลง 3 บาทต่อลิตร
ส่วนราคาน้ำมันดีเซลคาดว่าจะคงเดิม เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกอ่อนตัวลง จนสามารถเก็บเงินภาษีสรรพสามิตดีเซลได้ ส่วนแอลพีจีทั้งภาคขนส่งและครัวเรือน และเอ็นจีวีมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น โดยยังคงรอความชัดเจนจากทาง คสช. เนื่องจากราคาแอลพีจีและเอ็นจีวี ทาง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้า คสช.เป็นผู้พิจารณา
