ASTVผู้จัดการรายวัน - “ซาบีน่า” อัดหนักครึ่งปีหลังตลาดชุดชั้นใน หวังฟื้นการเติบโตสู่เป้าหมาย 10% หลังครึ่งปีแรกต่ำกว่าปีก่อน 10-15% ขณะที่ภาพรวมชุดชั้นในเจ็บหนักทรุด 20% ล่าสุดทุ่ม 40 ล้านบาทเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ “โมเดิร์น วี ไซด์ ล็อค บาย ซาบีน่า” พร้อมดึง “ชมพู่-อารยา” นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์อีกครั้ง มุ่งเจาะสาวยุคใหม่ หวังยอดขายร่วม 500 ล้านบาท โตกว่าปีก่อน 20% ด้าน “วาโก้” ยอดขายครึ่งปีแรกพลาดเป้า เร่งมือครึ่งปีหลังแค่ประคองยอดขายเท่าปีที่แล้ว
นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมชุดชั้นในมูลค่า 12,000 กว่าล้านบาทนั้น ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาตกลงกว่า 20% จากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่เริ่มส่อเค้ามาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2556 ที่ผ่านมา ขณะที่ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาพบว่าอารมณ์ในการใช้จ่ายเริ่มกลับมาดีขึ้นจากนโยบายภาครัฐ เงินงบประมาณที่ถูกจ่ายออกมา รวมถึงเงินที่ชดเชยให้ชาวนา ล้วนส่งผลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาดีขึ้น ทิศทางยอดขายชุดชั้นในครึ่งปีหลังนี้จึงมองว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ในส่วนของ “ซาบีน่า” ยอมรับว่าครึ่งปีแรกยอดขายตกลง 10-15% ตามสภาพตลาด โดยในครึ่งปีหลังนี้บริษัทพร้อมเดินหน้าทำการตลาดอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของงบการตลาดทั้งปีที่ต้องใช้กว่า 100 ล้านบาทเท่าปีก่อน ซึ่งถูกใช้ไปในครึ่งปีแรกเพียง 20-30 ล้านบาท ที่เหลือจะนำมาใช้ในครึ่งปีหลังเป็นหลัก ส่วนในแง่สินค้าใหม่มีเปิดตัวทุกๆ เดือน แต่ครึ่งปีหลังจะเน้นทำการตลาดมากยิ่งขึ้น พร้อมโฆษณาผ่านสื่อ เน้นสื่อออนไลน์ โซเชียลให้มากขึ้น เนื่องจากสื่อหลักอย่างทีวีจะต้องคิดให้รอบคอบ เนื่องจากประชาชนสับสนหลังทีวีดิจิตอลเกิด การกดหาช่องที่ต้องการรับชมยังสับสนอยู่
ล่าสุดได้เปิดตัวคอลเลกชันใหม่คือ “โมเดิร์น วี ไซด์ ล็อค บาย ซาบีน่า” เจาะกลุ่มสาวทำงานยุคใหม่ที่ต้องการมีร่องอกทันทีและชิดสวยนานตลอดวัน ด้วยนวัตกรรม “Side Lock” พร้อมได้ “ชมพู่-อารยา” ทำหน้าที่พรีเซ็นเตอร์อีกครั้ง หลังจากปีก่อนได้เปิดตัวคอลเลกชันดังกล่าวไปแล้วและได้รับความนิยมจนสามารถทำยอดขายสุงถึง 420 ล้านบาท และในปีนี้มองว่าจะมียอดขายโตขึ้น 20% หรือน่าจะมียอดขายกว่า 500 ล้านบาท คิดเป็น 15% ของภาพรวมรายได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทจะเน้นขยายชอปในรูปแบบสแตนด์อะโลนเพิ่มขึ้นจาก 78 สาขา สิ้นปีจะทำให้ได้ 100 สาขา แต่ละสาขาลงทุน 800,000-1,000,000 ล้านบาท ส่วนในต่างประเทศในย่านเออีซีสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนสาขารวมกันกว่า 100 สาขาเช่นกัน ได้แก่ พม่า 15 สาขา ฟิลิปปินส์ 30 สาขา สิงคโปร์ 10 สาขา เวียดนาม 40 สาขา และอินโดนีเซีย 80 สาขา เป็นต้น
นายบุญชัย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรายได้ของซาบีน่ามาจาก 2 ส่วนหลักคือ 1.โออีเอ็ม ส่งออกไปยังต่างประเทศ 15% ปีนี้โตขึ้น 25% 2.จำหน่ายในประเทศ 85% ภายใต้ซับแบรนด์และรุ่นต่างๆ เช่น โมเดิร์นเคิรฟ, ดูม-ดูม, ซาบีนี่, ฟังก์ชั่นบรา และชุดชั้นในสำหรับเด็ก เป็นต้น โดยทั้งปีนี้มองว่าจะมีรายได้รวมโตขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท
ด้าน นายวรเทพ อัศวเกษม รองผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ชุดชั้นใน “วาโก้” บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยอดขายของ “วาโก้” ช่วงครึ่งแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จึงทำให้ต้องเร่งทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อผลักดันรายได้รวมให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่แล้วคือประมาณ 4,000 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดรวมชุดชั้นในในมุมมองของบริษัทฯ ประเมินว่ามีประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่ง “วาโก้” เป็นเจ้าตลาดมีส่วนแบ่งประมาณ 50% ขณะที่แบรนด์อันดับที่สองมีส่วนแบ่งประมาณ 10% โดยปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะทรงตัวเพราะปัจจัยลบครึ่งปีแรกที่มีมาก
ส่วนครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะเน้นกลยุทธ์การออกสินค้าใหม่ที่มีนวัตกรรมและเพื่อสุขภาพ โดยมีช่องทางจำหน่ายกว่า 500 สาขา และปีนี้จะเพิ่มอีกกว่า 50 สาขา ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 100 ล้านบาท และใช้งบตลาดรวมทั้งปี 200 ล้านบาท