กลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท.ปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้จากเดิม 2.4 ล้านคันเหลือ 2.2 ล้านคัน ลดลง 2 แสนคัน โดยลดเป้ายอดขายในประเทศเหลือเพียง 1 ล้านคัน จาก 1.2 ล้านคัน คงเป้าการส่งออกที่ 1.2 ล้านคัน เช่นเดียวกับรถจักรยานยนต์หั่นเป้าลดลง 2,000,000 คัน ปัจจัยหลักจากหมดโครงการรถคันแรกและแรงซื้อคนไทยที่ผ่านมาไม่เป็นดังคาดจากปัญหาการเมือง โดยเฉพาะชาวนาไม่ได้รับเงินจำนำข้าว
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มรถยนต์ ส.อ.ท.ได้พิจารณาปรับเป้าการผลิตรถยนต์ในประเทศปี 2557 ใหม่ โดยเดิมประมาณการผลิตอยู่ที่ระดับ 2,400,000 คัน ปรับลดจากเป้าหมายเดิมเหลือ 2,200,000 คัน หรือลดลง 200,0002 คัน ลดลงจากปี 2556 ที่มีการผลิตระดับ 257,057 คัน หรือลดลง 10.46% เนื่องจากปีนี้หมดโครงการรถยนต์คันแรก ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาปัญหาการเมืองส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการบริโภคโดยเฉพาะกรณีการไม่ได้รับเงินจำนำข้าวของเกษตรกร
โดยการผลิตดังกล่าวได้ปรับเป้าการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลงจากเป้าหมายเดิม 1,200,000 คันเหลือ 1,000,000 คัน หรือลดลง 200,000 คัน หรือคิดเป็น 45.45% ของการผลิตทั้งหมด และลดลงจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 1,335,754 คัน เป็นจำนวน 335,754 คัน หรือลดลง 25.14% แต่ยังคงเป้าหมายเพื่อการส่งออกเดิมที่ระดับ 1,200,000 คัน หรือคิดเป็น 54.54% ของยอดผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 78,697 คันที่ผลิตเพื่อส่งออกอยู่ที่ 1,121,303 คัน หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 7.02%
“ที่ปรับเป้าการผลิตเพื่อจำหน่ายรถยนต์ในประเทศลดลงเหลือ 1 ล้านคันในปีนี้เนื่องจากปัจจัยสำคัญคือหมดโครงการรถคันแรก แต่ยังคิดว่าจะไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคันเพราะยังคงหวังว่าจะมีการฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4 หลังจากที่ชาวนาได้รับงินจำนำข้าวแล้ว ซึ่งแรงซื้อส่วนนี้น่าจะค่อยๆ ทยอยกลับมา และโครงการลงทุนต่างๆ ของรัฐและเร่งรัดการใช้จ่ายของภาครัฐที่น่าจะมากขึ้น อย่างไรก็ตามก็คงจะขอดูยอดขายในไตรมาส 3 อีกครั้งหากไม่ดีขึ้นก็อาจปรับเป้าหมายใหม่ได้อีก” นายสุรพงษ์กล่าว
สำหรับประมาณการผลิตรถจักรยานยนต์ปีนี้ได้ปรับลดเป้าหมายการผลิตจากเป้าเดิมที่กำหนดไว้ 2,250,000 คัน ลดลง 2,000,000 คัน ลดลงจากปี 2556 ที่ผลิตได้ 2,218,625 คัน หรือลดลง 218,625 คัน หรือลดลง 9.85% โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก ปรับลดลงจากเป้าหมายเดิม 50,000 คัน เป็นผลิต 300,000 คัน หรือคิดเป็น 15% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 333,780 คัน เป็นจำนวน 33,780 คัน หรือลดลง 10.12% ขณะที่การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศปรับลดลงจากเป้าเดิม 200,000 คัน เป็นผลิต 1,700,000 คัน เท่ากับ 85% ของการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 1,884,845 คัน เป็นจำนวน 184,845 คัน หรือลดลง 9.81%