ตลาดกระดาษพิมพ์เขียนทรุด “ดั๊บเบิ้ล เอ” หันขยายตลาดต่างประเทศ

เผยตลาดในประเทศโตเพียง 6-8% จากที่ควรจะเป็น 10% แจงเหตุผลหลักเพราะคนลดปริมาณการใช้กระดาษ สื่อสิ่งพิมพ์ปิดตัวหลายฉบับ รวมถึงกระแสนิยมใช้งานโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้น “ดั๊บเบิ้ล เอ” ปรับแผน รุกส่งออกเพิ่มขึ้น พร้อมเตรียมเปิดตัวกระดาษรีไซเคิลเกรดพรีเมียม และเครื่องใช้สำนักงานเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้สินค้า พร้อมดึงร้านถ่ายเอกสารทั่วประเทศร่วมเป็น “ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เมมเบอร์” ตั้งเป้าเปิดครบ 1 พันสาขาภายในปี 57

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดกระดาษพิมพ์เขียนว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตเฉลี่ยเพียง 6-8% จากเดิมที่เคยเติบโตกว่า 10% เนื่องจากปัจจัยลบหลายๆ ด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงนโยบายลดการใช้กระดาษ (Paperless) ขององค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนการปิดตัวของสื่อสิ่งพิมพ์หลายๆ ฉบับ และอัตราการเติบโตของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งอินเทอร์เน็ต เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไลน์ และอื่นๆ

มูลค่าตลาดรวมของกระดาษพิมพ์เขียนมีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทยังคงเป็นผู้นำตลาดกระดาษชนิด 80 แกรม ด้วยสัดส่วนประมาณ 65-70% ขณะที่มีเป้าหมายการขายในปี 2557 ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2556 ประมาณ 10% โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 5.3 พันล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 20% โดยมีสัดส่วนจากการจำหน่ายในประเทศ 20% และส่งออก 80% โดยแต่ละปีตลาดในประเทศมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 5-6% ส่วนตลาดต่างประเทศเติบโตประมาณ 20%

“ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทประมาณ 60% ยังคงเป็นสำนักงานเอกชนและหน่วยงานราชการ ขณะที่ 30% เป็นร้านถ่ายเอกสาร ส่วนที่เหลือ 10% เป็นสถาบันการศึกษา นักเรียน และผู้ใช้ทั่วไป โดยแม้ว่าหลายๆ ภาคส่วนเริ่มมีปริมาณการใช้กระดาษน้อยลง แต่บริษัทยังคงมีแผนขยายตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดและยอดขายในแต่ละปี โดยปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานขายในประเทศต่างๆ 14 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และอื่นๆ เป็นต้น นอกจากนั้นยังเตรียมแผนขยายตลาดใหม่ๆ ไปยังประเทศอินโดนีเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา รวมถึงยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง ซึ่งกำลังศึกษาตลาดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย”

นายชาญวิทย์กล่าวอีกว่า หลังจากที่บริษัทซื้อกิจการโรงงานกระดาษ “อลิเซ่” ประเทศฝรั่งเศส ทำให้มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านตันต่อปี โดยเร็วๆ นี้ยังมีแผนเปิดตัวกระดาษสำนักงานรีไซเคิลระดับพรีเมียมภายใต้แบรนด์ “EVOLVE” เพื่อตอบสนองกระแสตลาดที่กำลังรณรงค์เรื่องรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในส่วนของเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานเพื่อให้สินค้ามีความหลากหลายมากขึ้น

สำหรับกิจกรรมการตลาดในประเทศจะใช้รูปแบบการตลาดใหม่ คือ เปิดให้ร้านถ่ายเอกสารทั่วประเทศร่วมเป็นสมาชิกบริษัท ภายใต้ชื่อ “ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เมมเบอร์” ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของการเปิดศูนย์ถ่ายเอกสารแฟรนไชส์ “ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์” โดยล่าสุดได้เปิดให้บริการแล้วประมาณ 700 สาขา ขณะที่มีเป้าหมายเปิดให้ครบ 1 พันสาขาภายในปี 2557

ล่าสุดบริษัทใช้งบประมาณ 45 ล้านบาทจัดแคมเปญ “A to a ปลูกฝัน ปลูกปัญญา” ในโครงการ Double A Better Tomorrow เพื่อให้ผู้ที่ประสบความสำเร็จในทุกสาขาอาชีพร่วมเป็น “ครูชีวิต” เปิดโลกทัศน์ให้เยาวชนไทยเห็นหนทางในอาชีพจริงที่หลากหลายผ่าน Microsite ใน www.doubleatoa.com โดยในเบื้องต้นบริษัทนำรายได้ส่วนหนึ่งจากยอดจำหน่ายมอบเป็นทุนการศึกษาให้ลูกหลานชาวนา รวม 10 ล้านบาท และยังพร้อมจัดกิจกรรมต่อยอดในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง