xs
xsm
sm
md
lg

“สตาร์เวลล์” แตกไลน์ธุรกิจร่วมแชร์ตลาดอาหารเสริม (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ดร.บุญมา อิ่มวิเศษ” ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์เวลล์ จำกัด
ตลาด “ฟังก์ชันนัลดริงก์” เติบโตก้าวกระโดด ผู้จำหน่ายเครื่องใช้และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนตัดสินใจร่วมแย่งแชร์ เปิดตัว 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวม 6 ชนิด หลังทดลองทำตลาดได้ยอดขายเกินคาด ดึง “หยาดทิพย์ ราชปาล” เป็นพรีเซ็นเตอร์ หวังฉุดยอดขายเข้าเป้า 20 ล้านบาทในปี 57 พร้อมเตรียมลุยตลาด “ลาว” ต้นปี 58 ก่อนขยายไปเวียดนาม และพม่า

“ดร.บุญมา อิ่มวิเศษ” ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์เวลล์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนภายใต้แบรนด์ “STARWELL” เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์สำหรับผู้หญิง และตลาดกาแฟฟังก์ชัลดริงก์ที่ช่วยควบคุมน้ำหนักและดูแลผิวพรรณเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงแบบก้าวกระโดดอย่างชัดเจน เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อการดูแลรักษาสุขภาพและรูปร่างมากขึ้น ทั้งยังพร้อมที่จะใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าที่มีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการสูงสุด บริษัทฯ จึงใช้เวลาในการศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นเวลา 4 ปี ก่อนที่จะตัดสินใจขยายฐานธุรกิจใหม่คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์กาแฟเพื่อสุขภาพและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามภายใต้แบรนด์เดียวกันคือ “STARWELL”



สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าวแบ่งเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ รวม 6 ชนิด ประกอบด้วย “กลุ่มกาแฟ” มี 2 ผลิตภัณฑ์คือ สตาร์เวลล์ แอล-คาร์นิทีน เหมาะสำหรับการลดน้ำหนัก และสตาร์เวลล์ คอลลาเจน เพื่อผิวพรรณกระจ่างใส “กลุ่มผงชงดื่ม” มี 2 ผลิตภัณฑ์คือ สตาร์เวลล์ อินนูลิน เพื่อการกระชับสัดส่วนและลดการสะสมไขมัน และสตาร์เวลล์ กลูต้า คิวเทน เพื่อให้ผิวกระจ่างใส บำรุงผิวกายให้นุ่มนวล “กลุ่มอาหารเสริม” มี 2 ผลิตภัณฑ์คือ สตาร์เวลล์ การ์ซีเนีย ช่วยลดน้ำหนักเสริมความเรียบตึงให้ผิวพรรณ และสตาร์เวลล์ คอลลา พลัสซี เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี

บริษัทฯ เริ่มทดลองจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 56 โดยยังไม่ได้เริ่มทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ แต่ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก จากเป้าหมายการขายที่ตั้งไว้ในเดือนแรก 5 แสนบาท แต่สามารถทำได้ถึง 1 ล้านบาท จากนั้นมียอดขายเติบโตต่อเนื่องตลอดเป็น 2 ล้าน, 2.5 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นตามลำดับ ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่เดือน มี.ค. 57 เราจึงเริ่มใช้งบประมาณ 5 ล้านบาทในการวางแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ โดยคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 20 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 100% ในปี 2557

ดร.บุญมากล่าวด้วยว่า ในแง่ของคู่แข่ง หรือสินค้าระดับราคาเดียวกันที่มีอยู่ในตลาดประมาณ 200 รายนั้นจะมีเพียงสินค้ากลุ่มพรีเมียมไม่กี่รายเท่านั้นที่จะสามารถอยู่ในตลาดได้อย่างยาวนาน เราจึงเน้นคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก โดยนอกจากจะมีมาตรฐานผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) แล้ว ยังได้รับเครื่องหมายรับรอง “ฮาลาล” อีกด้วย พร้อมกันนั้นยังมีการออกแบบกล่องบรรจุผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นและหรูหราเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้า รวมถึงการแจ้งส่วนประกอบและวัตถุดิบสำคัญของผลิตภัณฑ์ที่เรานำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกาทั้งหมด พร้อมกับเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์คนสำคัญคือ “หยาดทิพย์ ราชปาล”

“เหตุผลที่มั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเก่าซึ่งมีการแนะนำและบอกต่อจนทำให้มีลูกค้ารายใหม่เพิ่มมากขึ้น ทั้งยังเริ่มรับรู้และจดจำแบรนด์ได้อย่างดี ประกอบกับมีการทำการตลาดและโฆษณาผ่านสื่อหลักคือโทรทัศน์ทั้งช่องฟรีทีวีและดิจิตอลทีวี โดยเริ่มเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณามาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และพร้อมจะเพิ่มช่วงเวลาออกอากาศอีกในช่วงครึ่งปีหลัง”

ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีการสื่อสารกับผู้บริโภคโดยตรงด้วยการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มและพื้นที่ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด เช่น การจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทั่วประเทศ การส่งเสริมการขาย เช่น ส่งชิ้นส่วนชิงโชค การจัดโปรโมชันร่วมกับสินค้าอื่นๆ ของสตาร์เวลล์ รวมถึงใช้โซเชียลมีเดีย และอื่นๆ เป็นต้น

สำหรับช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของบริษัทฯ ปัจจุบันยังคงจัดจำหน่ายด้วยวิธีขายตรงชั้นเดียว รวมถึงจำหน่ายผ่านร้านขายยา ร้านผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และตัวแทนจำหน่ายของบริษัทฯ โดยในอนาคตอันใกล้นี้จะเริ่มเพิ่มช่องทางโมเดิร์นเทรดอีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันยังมีแผนเพิ่มสินค้าใหม่คือผลิตภัณฑ์สเต็มเซลล์ชนิดผงชงดื่มสำหรับผู้หญิง และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมรรถภาพร่างกายของผู้ชาย

ดร.บุญมากล่าวด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจในเครือ 7 ด้าน เช่น ธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องใช้และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน คิดเป็นรายได้หลักประมาณ 70% รองลงมาคือธุรกิจสินเชื่อและลีสซิ่ง มีรายได้ประมาณ 20% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจนำเข้าและส่งออก รวมถึงธุรกิจอื่นๆ โดยคาดว่าธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะสามารถทำรายได้ประมาณ 4% โดยบริษัทตั้งงบประมาณการตลาดในปี 2557 ประมาณ 50% แบ่งเป็นธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประมาณ 5% นอกนั้นเป็นการใช้งบประมาณรวมทุกธุรกิจ โดยคาดว่าในปี 2557 บริษัทจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15%

นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตลาด AEC เพิ่มขึ้น โดยได้เริ่มทำตลาดเครื่องใช้และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน รวมถึงธุรกิจสินเชื่อและลีสซิ่งใน สปป.ลาว ผ่านนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจการเมืองท้องถิ่นของ สปป.ลาว มาแล้วประมาณ 4 เดือน โดยที่ผ่านมาสามารถทำรายได้ประมาณ 12% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคาดว่าจะเริ่มทำตลาดในช่วงต้นปี 2558 ก่อนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศเวียดนาม และพม่า เป็นลำดับต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น