ASTVผู้จัดการรายวัน-ตลาดฟังชันนอลดริงค์สำหรับผู้หญิงร้อนฉ่า “เซ็ปเป้” ฉีกแนวดึงศิลปินสุดฮอต “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ผู้ชายคนแรก หวังกระตุ้นสาวๆ หันมาดูแลตัวเองให้สวยในแบบของตัวเอง คาดช่วยกระตุ้นยอดขาย 800 ล้านบาท พร้อมผลักดันรายได้รวม 3 พันล้านบาท เผยครึ่งปีหลังยังมีทีเด็ดสร้างแบรนด์ “กาแฟเพรียว” พร้อมยกระดับ “เซ็ปเป้” สู่เครื่องดื่มระดับโลก
นายอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) ผู้สังสรรค์เครื่องดื่มระดับโลก เปิดเผยว่า เครื่องดื่มฟังชันนอลดริงค์ยังคงเป็นสินค้าที่เป็นเทรนด์ระดับโลก เนื่องจากผู้บริโภคยังคงสนใจในเรื่องของกระแสสุขภาพและมุ่งเน้นชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพียงแต่การทำตลาดอาจไม่หวือหวาเหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่ในส่วนของ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริงค์” ยังคงรักษาจุดเด่นในเรื่องของคุณภาพ รสชาติ และภาพลักษณ์สินค้า จึงทำให้ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีการจำหน่ายภายในประเทศประมาณ 38-40% ส่วนที่เหลือประมาณ 60-62% เป็นการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ 57 ประเทศ ผ่านคู่ค้า ตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนนำเข้าสินค้า ผู้ค้าปลีก และร้านค้ารายย่อย โดยแต่ละปียังคงมีอัตราเติบโตในระดับ 2 หลักอย่างต่อเนื่อง
“สำหรับตลาดเครื่องดื่มฟังชันนอลดริงค์สำหรับผู้หญิงในประเทศไทยเริ่มมีคู่แข่งขันน้อยลงแต่การแข่งขันกลับรุนแรงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลางเริ่มทยอยปิดตัวลง คงเหลือแต่ผู้ประกอบการายใหญ่ โดยมีมูลค่าตลาดเฉลี่ยปีละประมาณ 2.5 พันล้านบาท ขณะที่ในส่วนของ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริงค์” ยังคงเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 จากยอดขายในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.57 ประมาณ 657 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 39%”
บริษัทฯ มีการตั้งงบประมาณการตลาดในแต่ละปีประมาณ 200 ล้านบาท โดยในส่วนของต่างประเทศที่มียอดขายดีจะเน้นกลยุทธ์อะโบฟ เดอะ ไลน์ เป็นหลัก ส่วนประเทศที่กำลังเริ่มทำตลาดจะเน้นกลยุทธ์ บีโลว์ เดอะ ไลน์ ในขณะที่ประเทศไทยยังคงเน้นการตลาดโดยใช้สื่อครอบคลุม 360 องศา ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
ล่าสุดบริษัทฯ ใช้งบประมาณ 100 บาทในการออกแคมเปญการตลาดใหม่ด้วยรูปแบบไม่เหมือนใครโดยการนำหน่มฮอตของวงการบันเทิง “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ผู้ชายคนแรกสำหรับ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริงค์” เครื่องดื่มฟังชันนอลดริงค์สำหรับผู้หญิง เพื่อเชิญชวนให้สาวๆ หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น และเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำตลาดเครื่องดื่มฟังชันนอลดริงค์สำหรับผู้หญิงที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือนักศึกษาและคนวัยทำงานอายุ 18-35 ปี รวมถึงผู้หญิงทุกคนที่ต้องการสวยดูดีในแบบของตัวเอง โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 800 ล้านบาท เพื่อผลักดันยอดขายรวมให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 3 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 36%
นายอดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุที่บริษัทฯ ชอบการใช้กลยุทธ์และรูปแบบการตลาดใหม่ๆ ไม่เหมือนใคร และไม่เคยมีใครทำมาก่อน ดังนั้นเราจึงตัดสินใจเลือก “อนันดา เอเบอร์แฮม” ซึ่งถือเป็นศิลปินผู้ชายที่มีภาพพจน์ดีและได้รับความชื่นชมจากประชาชนทั่วไปมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ผู้ชายคนแรก โดยคาดว่าจะมีผลทำให้ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริงค์” มีภาพลักษณ์สินค้าดีขึ้นในระดับพรีเมียม ทั้งยังมั่นใจว่าหลังจากออกภาพยนตร์โฆษณาชุด “งานเลี้ยง” และไวรัลมาร์เก็ตติ้งทางสื่ออนไลน์แล้วจะช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 25% ภายในเวลา 1 เดือน
ส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงมุ่งเน้นคิดและพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าภายในประเทศ เนื่องจากเครื่องดื่มฟังชันนอลดริงค์จะมียอดขายดีในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 3 ของแต่ละปี โดยหลังจากนี้คาดว่าจะเน้นหนักที่ “กาแฟเพรียว” รวมทั้งสร้างสรรค์แบรนด์ “เซ็ปเป้” ไปสู่การเป็นเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก โดยล่าสุดมีทั้งสิ้น 8 รสชาติ ได้แก่ คอลลาเจน ไฟเบอร์ คิวเท็น คลอโรฟิลล์ แอลกลูต้าไวท์ เบอร์รี่ไบรท์ เบต้ากลูแคน และรสชาติล่าสุดคือ ลิ้นจี่
นายอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) ผู้สังสรรค์เครื่องดื่มระดับโลก เปิดเผยว่า เครื่องดื่มฟังชันนอลดริงค์ยังคงเป็นสินค้าที่เป็นเทรนด์ระดับโลก เนื่องจากผู้บริโภคยังคงสนใจในเรื่องของกระแสสุขภาพและมุ่งเน้นชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพียงแต่การทำตลาดอาจไม่หวือหวาเหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่ในส่วนของ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริงค์” ยังคงรักษาจุดเด่นในเรื่องของคุณภาพ รสชาติ และภาพลักษณ์สินค้า จึงทำให้ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีการจำหน่ายภายในประเทศประมาณ 38-40% ส่วนที่เหลือประมาณ 60-62% เป็นการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ 57 ประเทศ ผ่านคู่ค้า ตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนนำเข้าสินค้า ผู้ค้าปลีก และร้านค้ารายย่อย โดยแต่ละปียังคงมีอัตราเติบโตในระดับ 2 หลักอย่างต่อเนื่อง
“สำหรับตลาดเครื่องดื่มฟังชันนอลดริงค์สำหรับผู้หญิงในประเทศไทยเริ่มมีคู่แข่งขันน้อยลงแต่การแข่งขันกลับรุนแรงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลางเริ่มทยอยปิดตัวลง คงเหลือแต่ผู้ประกอบการายใหญ่ โดยมีมูลค่าตลาดเฉลี่ยปีละประมาณ 2.5 พันล้านบาท ขณะที่ในส่วนของ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริงค์” ยังคงเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 จากยอดขายในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.57 ประมาณ 657 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 39%”
บริษัทฯ มีการตั้งงบประมาณการตลาดในแต่ละปีประมาณ 200 ล้านบาท โดยในส่วนของต่างประเทศที่มียอดขายดีจะเน้นกลยุทธ์อะโบฟ เดอะ ไลน์ เป็นหลัก ส่วนประเทศที่กำลังเริ่มทำตลาดจะเน้นกลยุทธ์ บีโลว์ เดอะ ไลน์ ในขณะที่ประเทศไทยยังคงเน้นการตลาดโดยใช้สื่อครอบคลุม 360 องศา ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
ล่าสุดบริษัทฯ ใช้งบประมาณ 100 บาทในการออกแคมเปญการตลาดใหม่ด้วยรูปแบบไม่เหมือนใครโดยการนำหน่มฮอตของวงการบันเทิง “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ผู้ชายคนแรกสำหรับ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริงค์” เครื่องดื่มฟังชันนอลดริงค์สำหรับผู้หญิง เพื่อเชิญชวนให้สาวๆ หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น และเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำตลาดเครื่องดื่มฟังชันนอลดริงค์สำหรับผู้หญิงที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือนักศึกษาและคนวัยทำงานอายุ 18-35 ปี รวมถึงผู้หญิงทุกคนที่ต้องการสวยดูดีในแบบของตัวเอง โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 800 ล้านบาท เพื่อผลักดันยอดขายรวมให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 3 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 36%
นายอดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุที่บริษัทฯ ชอบการใช้กลยุทธ์และรูปแบบการตลาดใหม่ๆ ไม่เหมือนใคร และไม่เคยมีใครทำมาก่อน ดังนั้นเราจึงตัดสินใจเลือก “อนันดา เอเบอร์แฮม” ซึ่งถือเป็นศิลปินผู้ชายที่มีภาพพจน์ดีและได้รับความชื่นชมจากประชาชนทั่วไปมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ผู้ชายคนแรก โดยคาดว่าจะมีผลทำให้ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริงค์” มีภาพลักษณ์สินค้าดีขึ้นในระดับพรีเมียม ทั้งยังมั่นใจว่าหลังจากออกภาพยนตร์โฆษณาชุด “งานเลี้ยง” และไวรัลมาร์เก็ตติ้งทางสื่ออนไลน์แล้วจะช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 25% ภายในเวลา 1 เดือน
ส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงมุ่งเน้นคิดและพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าภายในประเทศ เนื่องจากเครื่องดื่มฟังชันนอลดริงค์จะมียอดขายดีในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 3 ของแต่ละปี โดยหลังจากนี้คาดว่าจะเน้นหนักที่ “กาแฟเพรียว” รวมทั้งสร้างสรรค์แบรนด์ “เซ็ปเป้” ไปสู่การเป็นเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก โดยล่าสุดมีทั้งสิ้น 8 รสชาติ ได้แก่ คอลลาเจน ไฟเบอร์ คิวเท็น คลอโรฟิลล์ แอลกลูต้าไวท์ เบอร์รี่ไบรท์ เบต้ากลูแคน และรสชาติล่าสุดคือ ลิ้นจี่