“KFC” จำเป็นต้องปิดร้าน 2 สาขาที่ จ.ปัตตานี และ 1 สาขาที่ จ.ยะลา เป็นการชั่วคราว เนื่องด้วยปัจจัยด้านการดำเนินงาน โดยมีนโยบายให้ความสำคัญในการรักษามาตรฐานการดำเนินงานของร้าน ทุกร้านที่เปิดดำเนินการจะต้องผ่านการตรวจสอบและการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเข้มงวดและสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ ร้านใน 2 จังหวัดได้เปิดดำเนินการมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี แต่มีความจำเป็นต้องดำเนินการปรับปรุงร้านเกือบทั้งหมด เพราะสถานการณ์ในพื้นที่ปัจจุบันทำให้เกิดความยากลำบากในการปรับปรุงซ่อมแซมและบำรุงรักษาร้านเพราะปัญหาด้านการขนส่งและการหาเจ้าหน้าที่และผู้รับเหมามาดำเนินการในพื้นที่ที่ร้านตั้งอยู่
อย่างไรก็ตาม การปิดร้านทั้ง 3 เป็นกรณีชั่วคราว โดยบริษัทฯ จะใช้เวลาในการศึกษาแบบแผนปฏิบัติการ รวมทั้งสถานที่ตั้งที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถรักษามาตรฐานการดำเนินงานของร้านตามแบบสากลและเมื่อมีความพร้อมก็จะดำเนินการเปิดให้บริการแก่ลูกค้าอีกครั้ง
ส่วนเรื่องบุคลากรที่ได้รับผลกระทบจากการปิดร้านชั่วคราวนั้น บริษัทฯ ได้เสนอตำแหน่งงานในจังหวัดอื่นๆ พร้อมมาตรการชดเชยอื่นๆ ให้แก่พนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการดังกล่าว โดยมีพนักงานที่ตัดสินใจไปปฏิบัติงานที่สาขาอื่นจำนวน 13 คน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในการลงทุนในประเทศไทยและมีแผนที่จะขยายสาขาทั่วประเทศเพิ่มในปีนี้มากกว่า 50 สาขา โดยปัจจุบัน “KFC” มีร้านในภาคใต้ทั้งหมด 65 สาขา และจะเปิดเพิ่มอีก 10 ร้านภายในปี 2558 โดยยังคงยืนยันในเจตนารมณ์ในการผลิต พัฒนาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างประโยชน์และความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยและดำเนินธุรกิจเคียงคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการนำสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคมใน 3 จังหวัดภาคใต้
อนึ่ง การตัดสินใจปิดร้านครั้งนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่อง “ฮาลาล” แต่อย่างใด เพราะบริษัทฯ มีนโยบายในการใช้วัตถุดิบ การจัดเก็บและกระบวนการทำอาหารที่ถูกต้องตามหลักศาสนบัญญัติของศาสนาอิสลามและไม่ผลิตอาหารที่ผิดหลักการ ส่วนในด้านการรับรองฮาลาลที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการรับรองว่าปฏิบัติตามขั้นตอนและกฎระเบียบฮาลาลจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ตสำหรับร้านในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยบริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการประสานงานกับคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยเพื่อศึกษาการขอรับรองเพิ่มเติมอีกด้วย