“อารีพงศ์” ส่งซิกผู้ค้าน้ำมันตรึงราคาต่อ รอ “ประจิน” เคาะโครงสร้างใหม่เร็วๆ นี้

“อารีพงศ์” ส่งสัญญาณให้ผู้ค้าน้ำมันตรึงราคาออกไปอีกโดยเฉพาะกลุ่มเบนซินที่ค่าการตลาดต่ำและถูกให้ตรึงมา 12 วันแล้วนับตั้งแต่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยขอให้รอปรับโครงสร้างราคาจาก คสช. หยอดคำหวานไม่นานเกินรอ ส่วนเปิดสัมปทานปิโตรเลียมเดินหน้าต่อแน่แต่เวลาใด และรูปแบบใดยังตอบไม่ได้ขอดูรายละเอียด

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ค้าน้ำมันต้องตรึงราคากลุ่มเบนซินตั้งแต่ 23 มิ.ย. 57 ที่ผ่านมาว่า แนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันขณะนี้คงจะต้องรอนโยบายที่ชัดเจนจาก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเข้าใจว่ากำลังเร่งสรุปเพื่อเสนอต่อหัวหน้า คสช.ประกาศต่อไป โดยผู้ค้าน้ำมันที่แบกรับภาระอยู่คงจะไม่นานเกินรอ

อย่างไรก็ตาม กรณีแนวทางดำเนินงานดังกล่าวจะออกแนวประชานิยมหรือไม่นั้นขอยืนยันจะดำเนินการโดยอยู่บนหลักการ สามารถชี้แจงและให้ระยะยาวสามารถไปได้ โดยจะพิจารณาภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของผู้ใช้น้ำมันและก๊าซทุกภาคส่วน เพราะต้องเข้าใจว่านโยบายที่เกิดขึ้นเป็นมรดกที่ทำมาก่อนหน้า

“ผู้ค้าน้ำมันที่แบกรับภาระอยู่คงไม่นานเกินรอเชื่อว่าท่านประจินกำลังเร่งอยู่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งรายละเอียดคงต้องให้ท่านประจินในฐานะประธาน กบง.พิจารณา แต่หลักการคงจะต้องมาพิจารณาจากของเดิมที่เป็นปัญหาอยู่ คือก๊าซแอลพีจีที่ยังต่ำกว่าต้นทุน แก๊สโซฮอล์บางตัวต้องอุดหนุนก็ต้องมาจัดระเบียบกันใหม่” นายอารีพงศ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 14.30 น. นายอารีพงศ์ได้เชิญสื่อมาพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยไม่ต้องการให้เป็นข่าวมากนัก โดยหลักการคือต้องการเข้ามาเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยจะให้ความสำคัญถึงพลังงานทดแทนด้วย นอกจากนี้จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลด้านพลังงานที่หลายฝ่ายยังมีความเข้าใจไม่ตรงกัน ส่วนคำถามเรื่องการเปิดแปลงสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่นั้นคงจะต้องเปิดแน่แต่จะต้องมาดูรายละเอียดระยะเวลาว่าเมื่อใดและรูปแบบที่เหมาะสม รวมถึงการเจรจาพื้นที่สัมปทานปิโตรเลียมทับซ้อนไทย-กัมพูชา

นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก กล่าวว่า ที่ผ่านมาบางจากช่วยตรึงราคากลุ่มเบนซินมา 2 สัปดาห์เพื่อรอปรับโครงสร้างราคาอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ได้ลดลง 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ก็ช่วยให้ค่าการตลาดปรับตัวดีขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 60 สตางค์ต่อลิตร ดีเซลค่าการตลาด 1.50 บาทต่อลิตร

แหล่งข่าวจากผู้ค้าน้ำมันกล่าวว่า ผู้ค้าน้ำมันกำลังรอนโยบายการปรับโครงสร้างราคาพลังงานจาก คสช. โดยคาดหวังว่าจะมีความชัดเจนในการปรับโครงสร้างราคาเร็วๆ นี้ เนื่องจากที่ผ่านมาค่าการตลาดกลุ่มเบนซินเฉลี่ยเหลือเพียง 50-60 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่ คสช.ขอให้ตรึงราคาขายปลีกไว้ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. 57 ทำให้ผู้ค้าน้ำมันต้องแบกภาระขาดทุนประมาณวันละ 18-20 ล้านบาท รวมระยะเวลาขาดทุนสะสม 11 วัน (23 มิ.ย.-3 ก.ค.)ประมาณ 180-200 ล้านบาท