xs
xsm
sm
md
lg

“มาสเตอร์คูล” เป้า 50 ล้านกลุ่มเออีซี จ่อเปิดดีลเลอร์อินโดฯ-ฟิลิปปินส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“นพชัย วีระมาน” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (แฟ้มภาพ)
“มาสเตอร์คูล” กางแผนครึ่งปีหลังบุกต่างประเทศ จ่อเปิดดีลเลอร์อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เผยโกยยอดขาย 6 เดือนแรก 300 ล้านบาท

นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายพัดลมไอเย็นแบรนด์ “มาสเตอร์คูล” เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายตัวแทนจำหน่ายที่อยู่ในกลุ่มสินค้าพัดลมไอเย็นไปยังตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศแถบอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งจะใช้กลยุทธ์เปิดตลาดผ่านงานแสดงสินค้านานาชาติ เพื่อค้นหาตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพและคาดว่าภายในปี 2558 บริษัทจะสามารถเปิดตลาดได้ครบทุกประเทศในอาเซียน

หลังจากที่ผ่านมาบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายในกลุ่มประเทศดังกล่าวแล้วกว่า 7 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น พม่า กัมพูชา เวียดนาม ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน โดยตลาดดังกล่าวนี้ทำยอดขายไปแล้วกว่า 15 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายของกลุ่มประเทศอาเซียนไว้ที่ประมาณ 25 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้าที่จะเปิดเออีซีอย่างเป็นทางการบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 50 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของยอดขายสินค้ากลุ่มพัดลมไอเย็นในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ดีที่สุด เนื่องจากสภาวะอากาศประเทศไทยร้อนจัดและระยะยาวนานกว่าทุกปี ส่งผลให้ยอดขายในช่วง 6 เดือนแรกมีรายได้สูงถึง 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้เท่ากับปีก่อนทั้งปี ดังนั้นคาดว่าสินค้ากลุ่มดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทราว 500 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ราว 450 ล้านบาท

ล่าสุด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเปิดตลาดเออีซี 2558 อย่างเป็นทางการ บริษัทได้เข้าร่วม “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์อุตสาหกรรมภาคกลางกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์” ที่จัดขึ้นโดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ทำให้บริษัทได้ความรู้และความเข้าใจในการวางแนวทางการบริหารจัดการด้านต้นทุนด้วยระบบลอจิสติกส์ให้มีความชัดเจนและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบการเพิ่มประสิทธิภาพในการหยิบสินค้าสำเร็จรูปด้วยการจัดผังคลังสินค้าและระบบการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้วยการใช้บาร์โค้ดตามมาตรฐานสากลแบบ GS1 ซึ่งถือว่าเป็นระบบการจัดการที่ดีที่จะส่งผลต่อการทำงานของบริษัทมีประสิทธิผลทั้งในด้านต้นทุนที่ลดลงและบุคลากรทำงานสะดวกและมีความรวดเร็วต่อการจัดส่งสินค้าไปยังผู้บริโภค

“จากการเข้าร่วมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์ฯ ส่งผลให้มาสเตอร์คูลสามารถบริหารต้นทุนทั้งด้านของเวลาและค่าใช้จ่ายในส่วนของลอจิสติกส์ลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดวางสินค้า และการวางระบบการหยิบสินค้าที่อยู่ภายในสต็อก ทำให้มีการจัดส่งสินค้าไปยังผู้บริโภครวดเร็วขึ้น โดยที่ผ่านมาบริษัทพยายามพัฒนาระบบการจัดการด้านนี้มาโดยตลอด แต่ก็พบว่ายังมีปัญหาเรื่องระบบที่ยังไม่มีความชัดเจนภายในองค์กรส่งผลให้มีต้นทุนจากตรงนี้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ มองว่าการมีระบบการจัดการด้านต้นทุนที่ดีก็จะสนับสนุนให้องค์กรสามารถรับมือกับการแข่งขันในตลาดกลุ่มเครื่องทำความเย็นในอนาคตได้ ซึ่งคาดว่าจะมีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะปีหน้าเพราะเป็นปีแรกในการเข้าสู่เออีซี” นายนพชัย กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น