ส.อ.ท.เตรียมร่อนหนังสือถึง “ขสมก.” สัปดาห์หน้าขอให้พิจารณาปรับ TOR จัดซื้อรถเมล์ NGV กว่า 3,000 คันใหม่ให้กำหนดว่าต้องเป็นรถที่ประกอบในประเทศเท่านั้น เช่นเดียวกับอุตฯ ไฟฟ้าฯ ซึ่งเป็นอุตฯ ทำรายได้อันดับ 1 ให้ประเทศ จี้รัฐควรกำหนดมาตรการใช้สินค้าของไทย
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้า ส.อ.ท.จะทำหนังสือไปยังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อเสนอแนะให้มีการกำหนดในร่างสัญญาหรือ TOR โครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติหรือ NGV จำนวน 3,183 คัน วงเงินประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาทว่า ให้ผู้ประมูลต้องจัดซื้อรถที่ต้องประกอบหรือต่อตัวถังในประเทศเท่านั้น เพราะการนำเข้าอาจเปิดช่องให้มีการคอร์รัปชันได้ ขณะที่ในไทยมีค่ายรถที่พร้อมและมีจำนวนมากรายที่สามารถประกอบและผลิตได้ และยังสนับสนุนฐานการผลิตรถยนต์ของไทยอีกด้วย
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.กล่าวว่า ทาง ขสมก.ได้มีหนังสือสอบถามมายัง ส.อ.ท. ซึ่งทางกลุ่มฯ ได้เสนอความเห็นเพื่อตอบกลับไปยัง ขสมก.แล้ว โดยเห็นว่าไม่ควรจะเป็นการนำเข้ารถเมล์ NGV จากต่างประเทศเข้ามา เนื่องจากขณะนี้ผู้ผลิตในไทยทุกค่ายมีความสามารถในการผลิตอยู่ปีละ 600 คัน และสามารถปรับไลน์การผลิตจากรถบรรทุกที่ล่าสุดการผลิตลดต่ำลงมากมาทดแทนได้เพิ่มอีกซึ่งอาจทยอยส่งมอบได้ 3-5 ปีก็คงจะต้องคุยรายละเอียด
“สามารถระบุใน TOR กำหนดให้ผู้ที่ยื่นเสนอราคาจะต้องเป็นการประกอบหรือผลิตในประเทศทั้งหมด ส่วนจะส่งมอบอะไรอย่างไรก็ต้องมาคุยในรายละเอียดอีกครั้ง เชื่อว่าค่ายรถในประเทศมีความสามารถและกระจายการผลิตได้ ซึ่งกรณีอาจต้องนำเข้าชิ้นส่วนก็ขอให้เป็นการต่อตัวถังในประเทศเพื่อส่งเสริมฐานการผลิตในไทย” นายสุรพงษ์กล่าว
นายวิษณุ ลิ่มวิบูลย์ ประธานกลุ่มไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม ส.อ.ท. กล่าวว่า อุตฯ กลุ่มนี้สร้างรายได้ให้ไทยเป็นอันดับ 1 เพราะมีมูลค่าส่งออกสูงถึง 1.7 ล้านล้านบาทและเมื่อรวมกับตลาดในประเทศอีก 5 แสนล้านบาทจะสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาท และปีนี้คาดว่าการส่งออกจะเติบโตระดับ 2% หรือมีมูลค่า 3 หมื่นกว่าล้านบาท อย่างไรก็ตามทางกลุ่มฯ ได้เสนอให้ภาครัฐควรกำหนดนโยบายสนับสนุนและจัดซื้อสินค้าที่ผลิตโดยผู้ประกอบการไทยเป็นหลักเพื่อให้มีศักยภาพในการพัฒนาสินค้าให้เข้าสู่ตลาดสากล ก่อให้เกิดการจ้างงาน เช่น โครงการแจกคูปองกล่องรับสัญญาณหรือ Set top box ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โครงการ Tablet กระทรวงศึกษาธิการ โครงการเปลี่ยนหลอดไฟ LED ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA) เป็นต้น