“แอมโบรส ไวน์” บุกตลาดรับกระแสคอไวน์ไทยแรงไม่ตก นำเสนอ “Escudo Rojo” พรีเมี่ยมไวน์จากผู้ผลิตชื่อดัง “บารอน ฟิลิปส์ เดอ รอสชิลด์” ประเทศชิลี ตอบสนองทุกรสชาติที่คอไวน์ต้องการ ด้วยการนำเสนอไวน์ 4 ชนิดรวดจากองุ่นพันธุ์ชาร์ดอนเนย์, โซวินญอง บลอง, ซีราห์, และคาเบอร์เนย์ โซวินญอง
บริษัท แอมโบรส ไวน์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายไวน์ชื่อดังจากต่างประเทศซึ่งปัจจุบันมีการนำเข้าไวน์กว่า 70 แบรนด์ จาก 14 ประเทศทั่วโลก อาทิ “บารอน ฟิลิปส์ เดอ รอสชิลด์” ที่มี “มูตอง คาเด้” เป็นแบรนด์หลัก, ฮาร์ดี้ส์, โรเบิร์ต มอนดาวี่ และยังนำเข้าสุราอีกกว่า 30 แบรนด์ รวมถึงน้ำดื่มธรรมชาติ VOSS จากประเทศนอร์เวย์
สำหรับไวน์ “Escudo Rojo” ซึ่งผลิตโดย “บารอน ฟิลิปส์ เดอ รอสชิลด์” ประเทศชิลี นั้น มีจำหน่ายในประเทศไทยมาแล้วกว่าสิบปี โดยนำเสนอไวน์ที่มีการผสมผสานองุ่น 4 พันธุ์ภายในขวดเดียว จึงทำให้มีรสชาตินุ่มนวลกลมกล่อม แต่ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตไวน์เพิ่มขึ้นอีก 4 ชนิดคือ Chardonnay, Sauvignon Blanc, Syrah หรือ Cabernet Sauvignon ซึ่งเป็นจังหวะดีที่กระแสคอไวน์ไทยเริ่มให้ความสำคัญกับพันธุ์องุ่นมากขึ้น นอกจากนั้น “บารอน ฟิลิปส์ เดอ รอสชิลด์” ยังถือโอกาสปรับโฉมใหม่ของฉลากและโลโก้เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ไวน์ระดับพรีเมี่ยมอีกด้วย โดยจะเน้นช่องทางจำหน่ายในโรงแรมและร้านอาหารชั้นนำเป็นหลัก
“ภัทราพร เตชะไพบูลย์” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอมโบรส ไวน์ จำกัด บอกเล่าถึงไวน์ “Escudo Rojo” ว่าถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1999 จากผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตไวน์ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน โดยประเทศชิลีถือเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศดี เป็นลักษณะเฉพาะตัวของประเทศที่ผลิตไวน์โลกใหม่ มีอาการร้อนในช่วงกลางวันและอากาศเย็นในช่วงกลางคืน มีพื้นที่ปลูกองุ่นเป็นที่ราบสูง ทำให้ไวน์ “Escudo Rojo” จากประเทศชิลีนี้มีลักษณะของไวน์โลกเก่าผสมผสานโลกใหม่อย่างลงตัว
“ภัทราพร เตชะไพบูลย์” ยังบอกด้วยว่าทิศทางตลาดไวน์ในประเทศไทยถือได้ว่าทุกวันนี้พฤติกรรมการบริโภคไวน์ของคนไทยจะมีการศึกษาลักษณะของไวน์และเน้นการเลือกไวน์ที่พันธุ์องุ่นมากขึ้น บริษัทฯ จึงเล็งเห็นว่าน่าจะนำเสนอไวน์ “Escudo Rojo” ที่ผลิตจากพันธุ์องุ่นแต่ละพันธุ์แท้ 100% เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่กำลังขยายตัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะไวน์จากประเทศชิลีซึ่งมีอัตราการเติบโต 11% สูงเป็นอันดับ 3 ของตลาด ทั้งยังหวังว่าจะสามารถช่วยผลักดันยอดขายของบริษัทให้ได้ตามเป้าหมายกว่า 1 แสนลัง หรือมีอัตราเติบโตกว่า 15% ภายในปีหน้าอีกด้วย
