“ซีทีเอช” ปรับกลยุทธ์อีกรอบหลังบอลพรีเมียร์ลีกจบฤดูกาลยังขาดทุนอยู่ ซุ่มศึกษารูปแบบใหม่ทั้งชื่อและราคาแพกเกจ พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์การทำตลาดเป็นเซกเมนเตชันเพื่อลงลึกตลาดแต่ละกลุ่มที่ต่างกัน
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนดำเนินงานที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบของการออกแพกเกจเพย์ทีวีที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบันใหม่ทั้งระบบ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นส่วนของชื่อแพกเกจและราคาแพกเกจ หลังจากที่จบการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2013/2014 แล้ว และเตรียมที่จะเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ 2014/2015 เร็วๆ นี้
ส่วนรูปแบบและราคาของแพกเกจใหม่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ระหว่างการวางแผนรายละเอียด รวมไปถึงการวางแผนทำตลาดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ด้วย เพื่อให้ผลการดำเนินงานในส่วนของพรีเมียร์ลีกปีนี้สร้างผลกำไรให้ได้ หลังจากที่ฤดูกาลที่แล้วยังขาดทุนอยู่
ทั้งนี้ แพกเกจเพย์ทีวีของซีทีเอชในปัจุบันมีทั้งหมด 6 แบบ รวม 11 แพกเกจคือ แพกเกจ ซีทีเอช ราคา 999 บาท, ซูเปอร์พรีเมียมแพก ชมได้ 62 ช่องพิเศษ และ 29 ช่องเอชดี ราคา 650 บาท, ควอลิตีแพก ชมช่องพิเศษ 52 ช่อง และ 25 ช่องเอชดี ราคา 450 บาท, บิ๊กแฟมิลีแพค ชมช่องพิเศษ 40 ช่อง และ 11 ช่องเอชดี ราคา 270 บาท, มินิแพก ชมช่องพิเศษ 21 ช่อง และ 5 ช่องเอชดี และ 3 แพกเกจใหม่ล่าสุดคือ WWE : มวยปล้ำ กีฬามันส์ ช่องพิเศษ 6 ช่อง ราคา 499 บาท, Max Sport : เต็มแม็กซ์มวยไทย ช่องพิเศษ 6 ช่อง ราคา 499 บาท และ Hollowood Bollywood : จัดเต็มคอหนัง ช่องพิเศษ 6 ช่อง ราคา 499 บาท
ส่วนแพกเกจ ซีทีเอช/พีเอสไอ ราคา 750 บาท/30 วัน เชียร์บอลมันส์x3 ช่องพิเศษ 18 ช่อง, ราคา 450 บาท/30 วัน เชียร์บอลครบรส ช่องพิเศษ 14 ช่อง และราคา 270 บาท/30 วัน สุดคุ้มคอบอล ช่องพิเศษ 8 ช่อง ส่วนแพกเกจ ซีทีเอชแซท พรีเมียร์ลีกเอชดี ราคา 999 บาท/30 วัน
นายเชิดศักดิ์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า ซีทีเอชยังอยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์การทำตลาดโดยหันมาเน้นการทำแบบเซกเมนเตชันเพื่อให้สามารถบริการได้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันมีความแตกต่างกันมากซึ่งส่งผลต่อคอนเทนต์ที่เป็นหัวใจสำคัญจะต้องทำให้มีความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มมากที่สุด เช่น คอนเทนต์กีฬาที่มีแยกออกไปเป็นกีฬาแต่ละประเภท ทั้งตื่นเต้น สนุกสนาน และอื่นๆ คอนเทนต์สำหรับผู้หญิง สำหรับผู้ชาย หรือวัยกลุ่มทำงาน เป็นต้น
โดยจะใช้วิธีร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มขึ้นเพื่อนำคอนเทนต์เหล่านั้นที่ได้มาต่อยอดธุรกิจและนำมาออกอากาศในช่องของซีทีเอชซึ่งยังมีช่องเหลืออีกประมาณ 4-5 ช่องที่ยังสามารถนำคอนเทนต์ต่างๆ มาลงช่องได้ ล่าสุดได้ร่วมมือกับบริษัท ซี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่ของประเทศอินเดีย มีการผลิตปีละไม่ต่ำกว่า 800 เรื่อง ด้วยการเปิดตัวช่อง “ซี หนัง” (Zee Nung) หรือช่องภาพยนตร์อินเดีย ออกอากาศ 24 ชั่วโมง โดยรูปแบบจะจัดอยู่ในกลุ่มของเพย์ทีวี มีราคาแพกเกจ 499 บาทต่อเดือน ซึ่งแต่ละวันจะมีหนังอินเดียออกอากาศประมาณ 6-7 เรื่อง แต่ละเรื่องจะออกอากาศมีความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง
นายเชิดศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า มั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทจะดีขึ้นตามลำดับ หลังจากที่ได้ทำการปรับกลยุทธ์ต่างๆ โดยคาดว่าจะมีฐานสมาชิกเพย์ทีวีรวมอยู่ที่ 2 ล้านราย จากปัจจุบันที่มีประมาณเกือบ 1 ล้านราย และส่งผลให้รายได้รวมปีนี้จะมีประมาณ 10,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ซีทีเอชเพิ่งทำการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจจากเคเบิลทีวีมาเป็นแซตเทิลไลต์ทีวี และเพย์ทีวีเรียบร้อยแล้ว โดยจากนี้บริษัทฯ จะให้ความสำคัญต่อแพลตฟอร์ม ไอพีทีวี หรือการดูทีวีออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต