ปตท.เผยการขนส่งน้ำมันและเอ็นจีวีไม่ได้รับผลกระทบจากประกาศกฎอัยการศึก หวังสถานการณ์บ้านเมืองกลับสู่ความสงบ เชื่อเศรษฐกิจไทยพร้อมฟื้นตัวหากมีรัฐบาลที่สมบูรณ์
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินธุรกิจของ ปตท.ภายใต้การประกาศกฎอัยการศึกยังไม่ได้รับผลกระทบจากการขนส่งน้ำมันและก๊าซฯ เอ็นจีวี แต่คงต้องติดตามดูไปอีกระยะ แต่ถ้าได้รับผลกระทบ ปตท.ก็มีการทำประกันภัยไว้แล้ว ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศเองมีแรงเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยออกมาเล็กน้อย ไม่ได้วิตกกังวลมากนัก
ดังนั้น หากการประกาศกฎอัยการศึกแล้วทำให้ประเทศสงบและเริ่มต้นใหม่ มีการตั้งรัฐบาลใหม่ที่สมบูรณ์ได้ งบประมาณรายจ่ายได้เดินหน้า ทำให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ก็เป็นเรื่องดีสำหรับคนไทยรวมถึง ปตท.ด้วย ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมสูง เพียงแต่ช่วงนี้เกิดช่องว่างสุญญากาศ ถ้ามีรัฐบาลใหม่ก็ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ปตท.ก็จะได้รับผลบวกในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วย
ด้านนายทวิช เตชะนาวากุล ประธานบริษัท ไฮเทค กบินทร์ โลจิสติกส์ จำกัด ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค อยุธยา และนิคมกบินทร์บุรี กล่าวถึงกรณีประกาศกฎอัยการศึกและการจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบ (กอ.รส.) เพื่อดูแลความสงบของประเทศว่าถือเป็นเรื่องดีที่เข้ามาในช่วงจังหวะเหมาะสม เป็นตัวกลางไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนกับเหตุการณ์ที่มีการใช้อาวุธสงครามทำร้ายประชาชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะที่จะหาทางออกให้ประเทศ โดยทหารควรเข้ามาช่วยปฏิรูปดูแลในฐานะเป็นตัวกลางหลังจากประเทศชาติเสียหายมามากแล้ว
การประกาศกฎอัยการศึกในสายตาต่างชาติเป็นเรื่องที่รุนแรง แต่นักลงทุนที่ติดตามสถานการณ์การเมืองไทยมาจะเข้าใจได้ดี เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนต่างชาติ เพียงแต่ประเทศชาติเสียโอกาสมา 2 ปีจากปัญหาการเมืองในประเทศ ดังนั้นถึงเวลาที่สองฝ่ายจะหันหน้าเข้าหากันเพื่อหาทางออกให้ประเทศเพื่อความสงบสุขโดยทหารเป็นคนกลาง