ยอดใช้น้ำมันเดือน เม.ย.ลดลงต่อเนื่อง บ่งชี้เศรษฐกิจยังชะลอตัว

ธพ.เผยยอดใช้น้ำมันเดือน เม.ย.ยังคงปรับลดต่อเนื่องจาก มี.ค. เหตุวันหยุดยาวและยังสะท้อนจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงรวมเดือน เม.ย.สวนทางเพิ่มขึ้น 2.56%โดยเฉพาะส่วนของน้ำมันดิบ

นายสมนึก บำรุงสาลี อธิบดีมกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยถึงการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกประเภท และเอ็นจีวีเดือนเมษายน 57 เปรียบเทียบเดือนมีนาคม 57 ปรับลดลง โดยกลุ่มเบนซินมีการใช้ 22.7 ล้านลิตร/วัน ลดลง 0.38% และหากเปรียบเทียบเดือน เม.ย. 56 ลดลง 0.90% ดีเซลมีการใช้ 60.65 ล้านลิตร/วัน ลด 0.11% หากเปรียบเทียบเมษายน 56 เพิ่มขึ้น 2.16% ส่วนเอ็นจีวีมียอดใช้ 8,410 ตัน/วัน ลดลง 7.58% หากเปรียบเทียบ เม.ย. 56 เพิ่มขึ้น 3.94% ขณะที่แอลพีจียอดใช้ต่อวัน 20.45 ล้าน กก.เมื่อเปรียบเทียบ มี.ค. 57 เพิ่มขึ้น 2.19% แต่หากเปรียบเทียบเดือน เม.ย. 56 ลดลง 2.37% ซึ่งสาเหตุหลักมาจาก เม.ย.มีช่วงวันหยุดมาก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

“การลดลงของกลุ่มเบนซินนั้นส่วนใหญ่เป็นการลดลงของเบนซิน 95 และแก๊สโซฮอล์ 95 ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ อี85 ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่วันละ 0.82 ล้านลิตร ส่วนแอลพีจีนั้นหากแยกเป็นรายกลุ่ม เป็นการเพิ่มขึ้นของภาคปิโตรเคมี 12.94% ภาคขนส่ง 1.07% ภาคครัวเรือนลดลง 4.78% ภาคอุตสาหกรรมลดลง 13.94%” นายสมนึกกล่าว

ส่วนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือน เม.ย. 57 เพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค. 2.56% อยู่ที่ 857 พันบาร์เรล/วัน โดยมีมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 91,341 ล้านบาท แบ่งเป็น การนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.07% อยู่ที่ 754 พันบาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่า 82,599 ล้านบาท และน้ำมันสำเร็จรูปมีการนำเข้าอยู่ที่ 103 พันบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 6.25% คิดเป็นมูลค่า 8,742 ล้านบาท ส่วนน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการเพิ่มขึ้นของการนำเข้า LPG 36.42% อยู่ที่ 183 พันบาร์เรล/วัน โดยมีการนำเข้าแอลพีจีเดือน เม.ย. 57 อยู่ที่ 182.62 ล้าน กก./เดือน เพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค. 36.42% เนื่องจากเรือขนส่งมาส่งในเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น