xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด “เซ็นทรัล” มุ่ง ตปท. ไล่เทกโอเวอร์ คาดปีนี้ปิด 2 ดีล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โครงการ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี (Central Embassy) ศูนย์การค้าระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ไอคอนนิค รีเทล แลนด์มาร์ค แห่งแรกของเมืองไทยที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ บนถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ
ASTVผู้จัดการรายวัน - กลุ่มเซ็นทรัลเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง ยันยังไม่มีการปรับแผนธุรกิจ เผยบอร์ดใหญ่สนใจมุ่งเป้าหมายสู่เออีซีและยุโรป แย้มอยู่ระหว่างเจรจาดีลซื้อขายกิจการกว่า 10 ดีล แต่ปีนี้อาจจะสำเร็จ 2 ดีล

นายสุทธิชาติ จิราธิวัฒน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ช่วงหลายปีมานี้ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาด้านความขัดแย้งทางการเมืองมานานซึ่งเป็นเรื่องของบ้านเมืองแต่ก็กระทบเศรษฐกิจด้วย แต่มั่นใจว่าเหตุการณ์ความขัดแย้งและปัญหาต่างๆ จะต้องจบลงซึ่งจะส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนเอกชนที่ดำเนินธุรกิจก็คงไม่สามารถไปทำอะไรได้ คงต้องดูแลและจัดการบริหารธุรกิจของตัวเองให้ดีที่สุดเพราะธุรกิจต้องเติบโตและมีการลงทุนต่อเนื่อง

ในส่วนของเซ็นทรัลก็มีการลงทุนต่อเนื่องตามแผนงานที่มีการกำหนดไว้ในระยะยาว แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศที่มองว่าในยุคนี้ต้องขยายตัวไปต่างประเทศเท่านั้นเพื่อสร้างการเติบโตให้มากขึ้น เพราะธุรกิจค้าปลีกในไทยถือได้ว่าช่องว่างเริ่มน้อยลงแล้ว

“จริงๆ แล้วเมื่อถึงเวลาเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ผมมองว่าประเทศไทยอาจจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าใด โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกแทบจะเรียกได้ว่าเต็มพื้นที่ และธุรกิจค้าปลีกของไทยก็แข็งแกร่งจนต่างชาติไม่กล้าเข้ามาลงทุนแน่นอน โดยเฉพาะในกลุ่มเออีซีด้วยกันเราแข็งแรงกว่ามาก”

อย่างไรก็ตาม บอร์ดของเซ็นทรัลส่วนใหญ่มองว่าเซ็นทรัลควรจะขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยมุ่งเน้นตลาดในกลุ่มเออีซีนี้ให้มากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการขยายตัวไปหลายประเทศทั้งในยุโรป เอเชียแล้วแต่ก็คงดำเนินการต่อไป

นายปริญญ์ จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มเซ็นทรัลอยู่ระหว่างการเจรจาที่จะเทกโอเวอร์ หรือซื้อกิจการประมาณ 10 ดีล กระจายไปในหลายประเทศทั้งยุโรป เอเชีย ซึ่งคาดว่าในปีนี้คงจะสามารถสรุปผลการเจรจาเทกโอเวอร์ได้อย่างต่ำ 2 โครงการ

“จริงๆ แล้วเราอยากเติบโตในแถบนี้มากกว่าแต่ว่ามันปิดดีลยาก ทุกโครงการที่เจรจากันอยู่นั้นอยู่ในต่างประเทศทั้งหมด โดยปีนี้จะเป็นปีที่เราลงทุนในต่างประเทศอย่างเต็มที่และจริงจัง” นายปริญญ์กล่าว

ส่วนการลงทุนในไทยนั้น นายปริญญ์มองว่า บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อในประเทศแม้จะรุกหนักต่างประเทศก็ตาม เพราะเราเป็นคนไทยก็ต้องลงทุนในไทยด้วย เรามองระยะยาวอยู่แล้ว แม้เวลานี้จะมีปัญหาการเมืองอยู่บ้างซึ่งเราเองก็ยังไม่มีการปรับแผนการดำเนินงานแต่อย่างใด โดยปีนี้ลงทุนมากกว่า 40,000 ล้านบาท มากที่สุดในรอบ 5 ปี มากกว่าช่วงที่ผ่านมาที่ลงทุนเฉลี่ย 20,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น และปีหน้าก็ยังจะลงทุนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท โดยเฉพาะการลงทุนเพื่อรองรับการเปิดเออีซีที่ไทยจะเป็นศูนย์กลาง

“เซ็นทรัลมีแผนจะลงทุนสร้างศูนย์การค้าในจังหวัดชายแดนที่ติดกับประเทศในเออีซีด้วยกันเพื่อรองรับกำลังซื้อและเชื่อมต่อการค้าเข้าด้วยกันกับเออีซี ซึ่งเรามองว่ายังมีโอกาสที่จะไปเปิดศูนย์การค้าในต่างจังหวัดที่เป็นรอยต่อชายแดนได้อีกอย่างต่ำ 5 สาขา”

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร เซ็นทรัลกรุ๊ป กล่าวว่า ช่วง 4 เดือนแรกของปี 2557 ผลประกอบการรวมเติบโตไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เนื่องจากปัจจัยลบต่างๆ ทั้งการเมือง กำลังซื้อที่ลดลง อีกทั้งต้องการให้มีรัฐบาลบริหารประเทศโดยเร็วเพื่อให้ทุกอย่างพลิกฟื้นกลับมาดีขึ้น

“ตอนนี้เซ็นทรัลต้องหันมาดูตัวเองเรื่องการควบคุมการใช้จ่ายให้ดีขึ้นแต่เราก็ยังลงทุนต่อเนื่อง โดยปีนี้ก็ยังคงลงทุนประมาณ 44,000 ล้านบาทตามที่วางไว้ และเน้นไปที่การลงทุนทางด้านห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลมีธุรกิจในต่างประเทศหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นอิตาลี เดนมาร์ก มาเเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม เป็นต้น รวมมากกว่า 15 ประเทศแล้ว ซึ่งตามนโยบายแล้วจะมีทั้งการลงทุนเอง การร่วมทุน การเทกโอเวอร์กิจการ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 30% ภายใน 10 ปีจากนี้ จากขณะนี้ที่มีสัดส่วน 15% ทั้งๆ ที่ 3 ปีก่อนนี้ยังไม่มีเลย

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้วางเป้าหมายที่จะเติบโตประมาณ 14% หรือมีรายได้ประมาณ 2.67 แสนล้านบาท เติบโต 19% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ประมาณ 2.33 แสนล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้ในประเทศ 85% และต่างประเทศ 15% โดยกลุ่มธุรกิจที่ทำรายได้หลักได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มทำรายได้คิดเป็นสัดส่วนราว 70%

นายฌอน ฮิลล์ ผู้บริหารกิจการในต่างประเทศของกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลมองการลงทุนขยายกิจการในยุโรปเพราะช่วงนี้เป็นจังหวะดีที่จะลงทุนในยุโรปเพราะเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัว สังเกตจากการใช้จ่ายในห้างของคนในยุโรปมีประมาณ 1 พันยูโรต่อคน ทั้งนี้ห้างที่จะเข้าไปลงทุนนั้นจะต้องเป็นห้างระดับหรูและอยู่ในเมืองท่องเที่ยว ส่วนชื่อก็จะเปลี่ยนไปตามแต่ละแห่ง

เขากล่าวต่อว่า ส่วนห้างลารีนาเซนเตที่กลุ่มเซ็นทรัลเทกโอเวอร์มาก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้ทำการรีโนเวตทั้งหมด 10 สาขาในอิตาลีเรียบร้อยแล้ว โดยปีที่แล้วมียอดขายเติบโต 8%


กำลังโหลดความคิดเห็น